ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
22 มีนาคม 2554

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมฟังการชี้แจงความความคืบหน้า โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต เลือก 3 กลุ่มนำเสนอรูปแบบเบื้องต้น ขณะที่ผู้ประกอบการไม่เห็นด้วยสร้างโรงแรมที่พักในโครงการ ระบุภูเก็ตมีห้องพักจำนวนมากอยู่แล้ว รวมทั้งปัญหาที่จอดรถ การจราจร

วันนี้ (20 มี.ค.) ที่โรงแรมเมโทรโพล จ.ภูเก็ต ได้มีการประชุมชี้แจงความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการ นานาชาติภูเก็ต โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางอัญชลี วาณิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมธนารักษ์ ผู้บริหารจากหน่วยงานราชการต่างๆ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรม หอการค้าจังหวัด สมาคมโรงแรม และประชาชนในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 500 คน

ในวันนี้เป็นการนำเสนอความคืบหน้าโครงการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการไปแล้วหลายขั้นตอน ทั้งศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม การจ้างที่ปรึกษาเพื่อบริหารโครงการและศึกษาแผนธุรกิจด้านการตลาด เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาไปกำหนดรูปแบบของโครงการ รวมทั้งได้มีการคัดเลือกผู้ออกแบบอาคารและควบคุมงาน

ในวันนี้ได้มีการนำเสนอแนวความคิดในการออกแบบเบื้องต้น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 KAED103 จุดเด่นของอาคารเป็นรูปกระดองเต่า กลุ่มที่ 2 SPAN&FED จุดเด่นของอาคารเป็นรูปหอยสังข์ และกลุ่มที่ 3 ASD จุดเด่นของอาคารเป็นรูปหอยมุก ส่วนรายละเอียดอื่นๆ เป็นไปตามที่ทางกรมธนารักษ์กำหนดไว้ เช่น สถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงความเป็นภูเก็ต การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบความปลอดภัย พื้นที่จัดประชุมและแสดงนิทรรศการ ที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน การอนุรักษ์พลังงาน ความเป็นสากล สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น และขั้นตอนสุดท้ายที่จะดำเนินการ คือ การลงนามในสัญญาก่อสร้างโครงการ คาดว่าดำเนินการได้ภายในปี 54

อย่างไรก็ตาม หลังจากการนำเสนอของทั้ง 3 กลุ่มแล้ว นายวัชรินทร์ ดุมลักษณ์ หนึ่งในประชาชนที่รับฟังการนำเสนข้อมูล กล่าวว่า อยากให้การออกแบบของสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยภาคใต้ ไม่ใช่เน้นแต่ความเป็นต่างชาติ รวมถึงเรื่องระบบความปลอดภัยซึ่งเกิดจากธรรมชาติ

ขณะที่นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า โครงการศูนย์ประชุมฯ จะเกิดประโยชน์กับภูเก็ตและฝั่งอันดามันเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ได้กว้างมากยิ่งขึ้น และมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้ตลอดทั้งปี แต่อยากฝากในเรื่องของการจัดพื้นที่สำหรับจอดรถบัส เนื่องจากการเข้าถึงพื้นที่มีเพียงการใช้รถยนต์เท่านั้น และไม่ควรที่จะมีการสร้างโรงแรมที่พักมาแข่งขันกับทางภาคเอกชน เนื่องจากปัจจุบันห้องพักทุกประเภทในจังหวัดภูเก็ตมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 60,000 ห้อง

ในขณะที่เขาหลัก จ.พังงา ซึ่งสามารถใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มีจำนวนห้องพักที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 6,000-7,000 ห้อง ซึ่งเพียงพอในการรองรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามา ส่วนความกังวลว่า เมื่อถึงฤดูกาลท่องเที่ยวแล้วจะมีห้องพักไม่เพียงพอนั้น คิดว่าหากมีการบริหารจัดการที่ดีก็ไม่น่าจะมีปัญหา

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่กังวลเรื่องของการคมนาคมขนส่งจากตัวเมืองไปยังสถานที่ตั้งศูนย์ ประชุมฯ ด้วยเกรงว่าจะไม่มีความคล่องตัว และจะเกิดความแออัด รวมถึงการตัดสินใจเลือกรูปแบบของศูนย์ประชุมฯ โดยอยากให้คนภูเก็ตได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย

ด้านนายกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า วันนี้เป็นการนำเสนอการออกแบบของผู้ออกแบบ ที่ได้คัดมา 3 ราย เพื่อให้ชาวภูเก็ต ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ก่อนที่จะมีการตัดสินใจคัดเลือกรูปแบบดำเนินการ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าของโครงการศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ ตามความตั้งใจของรัฐบาล ในโครงการไทยเข้มแข็ง และมั่นใจว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จตามกำหนดเวลาที่ได้มีการตกลงกันไว้ ในช่วงต้นปี 2557

สำหรับโครงการศูนย์ประชุมดังกล่าว จะยกระดับการท่องเที่ยวของภูเก็ตให้ไปสู่ระดับมาตรฐานสากลได้ และตอนนี้นอกเหนือจากศูนย์ประชุมฯ รัฐบาลยังได้อนุมัติโครงการการขยายสนามบินภูเก็ตเพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้ ถึง 12 ล้านคนต่อปี และขั้นตอนต่อไปคือการพัฒนาระบบการคมนาคมของภูเก็ตให้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะรวมไปถึงระบบรถไฟฟ้ามารองรับเพื่อเชื่อมโยงไปยังศูนย์ประชุมฯ สนามบิน และตัวเมืองภูเก็ต

นายกรณ์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากมีการนำเสนอรูปแบบแล้วภายในสัปดาห์หน้าก็จะมีการตัดสินคัดเลือกให้ เหลือเพียง 1 บริษัท มาการออกแบบในรายละเอียด หลังจากนั้นก็จะมีการดำเนินการต่อไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ส่วนเรื่องคมนาคมนั้น ตอนนี้มีเส้นทางเข้าออกศูนย์ประชุมเพียงเส้นทางเดียวคิดว่าคงยังต้องมีการ พัฒนา เพื่อที่จะให้การเดินทางในตัวเมืองภูเก็ต มาสู่ศูนย์ประชุมมีความสะดวกและต้องมีการแก้ไขปัญหาในแต่ละแยก ซึ่งมีอยู่สามแยกด้วยกัน ซึ่งอาจจะทำเป็นอุโมงค์ สะพานลอยข้ามแยก หรือระบบรถไฟฟ้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการต่อไป

นายกรณ์ ยังได้กล่าวถึงผลทางเศรษฐกิจของศูนย์ประชุมฯ ว่า ปัจจุบันจำนวนห้องพักในภูเก็ตมีค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นตัวดึงดูดทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวคุณภาพ นักท่องเที่ยวที่มีความพร้อมในการใช้จ่ายสูง เดินทางในพื้นที่ของเรามายิ่งขึ้น แต่ที่ผ่านมาเราขาดตลาดกลุ่มไมซ์ เชื่อว่าเมื่อมีศูนย์ประชุมฯ เกิดขึ้นก็จะทำให้เจาะกลุ่มตลาดไมซ์เข้ามาเพิ่มมากขึ้นซึ่งตลาดดังกล่าวเป็น ตลาดระดับสูง

นายกรณ์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการดำเนินโครงการศูนย์ประชุมฯ หลังจาการมีการเลือกตั้ง ว่า ไม่สามารถที่จะไปยืนยันนโยบายของรัฐบาลอื่นๆ ได้ แต่ถ้ามีการเลือกตั้งแล้วนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่ถ้าเป็นรัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ ก็กล้าที่จะยืนยันเพราะว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้อยู่แล้ว และจะต้องเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม คิดว่าถ้ารัฐบาลใดเข้ามาก็คงไม่มีรัฐบาลไหนจะปฏิเสธถึงความสำคัญของภูเก็ต ความสำคัญของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอันดามัน และความสำคัญของพื้นที่นี้ควรมีศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ และโดยเฉพาะเม็ดเงิน รัฐบาลนี้ก็ได้จัดสรรให้เรียบร้อยแล้วไม่มีเหตุผลอันควรที่รัฐบาลใดจะมายก เลิกโครงการ เพราะฉะนั้นตนคิดว่าชาวภูเก็ตน่าจะสบายใจได้ โครงการนี้เราคงไม่นำมาพูดว่าถ้าไม่เลือกเรา อาจจะมีคนอื่นมายกเลิก ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นอย่างนั้นได้จริง แต่ที่สำคัญ ตอนนี้คือ ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปในการที่จะสร้างศูนย์ ประชุมฯให้เป็นจริงสำหรับชาวภูเก็ตทุกคนที่รอคอยมานาน

ขณะที่นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต หรือ ไมซ์ภูเก็ต เป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศให้มี ประสิทธิภาพและเกิดความมั่นคง รวมทั้งเป็นแหล่งที่สามารถสร้างงานและรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนยังเป็นการพัฒนาที่ดินราชพัสดุเพื่อเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินให้กับหน่วย งานภาครัฐ จากความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ที่มีปัจจัยความพร้อมทุกๆด้าน จึงมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการในระดับ World Class เพื่อมุ่งสู่ความเป็นผู้นำของศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติแห่งภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในวงเงินทั้งหมด 2,600 ล้านบาท ได้ดำเนินงานมาถึงขั้นตอนการคัดเลือกผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 20 มี.ค.54

0 ความคิดเห็น: