กลุ่มซีคอนรุกคืบโครงการอสังหาฯ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โรงแรมเรเนซอง ภูเก็ต มูลค่า 1,600 ล้าน รับลูกค้าต่างชาติกระเป๋าหนัก พักนาน ยอมรับระยะสั้นภาวการณ์ท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว คาด1-2 ปีจะกลับมาเป็นปกติ แนะภาครัฐร่วมกับสถาบันการเงินช่วยผู้ประกอบการรายย่อย
นายปิยะ ซอโสตถิกุล กรรมการบริหารเครือซีคอน กล่าวว่า หลังจากที่เครือซีคอนได้รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจ.ภูเก็ต โดยได้เปิดโครงการบ้านจัดสรรในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้เปิดตัวโรงแรมระดับ 5 ดาว คือ โรงแรมเรเนซองภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์สปา เนื้อที่ 25 ไร่ บนหาดไม้ขาว บริหารงานโดยแมริออต มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโครงการรองรับตลาดท่องเที่ยว โดยโรงแรมมีจำนวน 150 ห้อง อัตราค่าพักเฉลี่ย 5,000-6,000 บาทต่อคืน และ 25 พูลวิลลา อัตราค่าพัก 20,000 บาท ปัจจุบันมียอดจองของนักท่องเที่ยวเข้าพักเต็มจนถึงต้นปีหน้า
“ ผลตอบรับในเบื้องต้นเป็นที่น่าพอใจมาก จากการสำรวจความพึงพอใจทั้งด้านคุณภาพการให้บริการและสถานที่ของผู้เข้าพัก และเอเย่นต์ ส่วนหนึ่งมาจากการที่เป็นโรงแรมระดับห้าดาวใหม่ เพียงไม่กี่แห่งที่เปิดตัวในปีนี้ นอกจากนั้น โรงแรมยังได้กรุ๊ปทัวร์จากบริษัทชั้นนำในประเทศมาจัดสัมมนา เพราะมีความพร้อมด้านสถานที่ โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากได้มีการทำการตลาดที่ดีและคุมต้นทุนได้ อย่างไรก็ตาม ทางเครือซีคอน ยังมีแลนด์แบงก์ในเมืองท่องเที่ยว เช่น ชะอำ เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ จำนวนมาก โดยมีแผนลงทุนโครงการที่จ.กระบี่ ในอีก 2 ปีข้างหน้า ” นายปิยะกล่าว
สำหรับปัญหาการท่องเที่ยวใน จ. ภูเก็ต มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและผู้ประกอบการในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก จากรายได้การท่องเที่ยวของประเทศกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี หนึ่งในสามมาจากแถบอันดามันซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงและ ครึ่งหนึ่งของจำนวนนั้นมาจาก จ. ภูเก็ต ทั้งนี้ รายรับจะอยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว( High season )เป็นหลัก หรือตั้งแต่ 15 พ.ย. ถึงสิ้นเดือนมีนาคม แต่ปัจจุบัน High season มีระยะเวลาสั้นลง นอกจาก นั้น นักท่องเที่ยวจะประหยัดมากขึ้น ทำให้ธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ธุรกิจนำเที่ยว, ร้านอาหาร และธุรกิจค้าปลีก มีรายได้ลดลงอย่างมาก
“ปัจจุบันภาวะการท่องเที่ยวใน จ. ภูเก็ต ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วโดย เฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ เช่น ชาวรัสเซีย ออสเตรเลียหรือตะวันออกกลางที่มาแทนกลุ่มหลักคือชาวยุโรปที่หายไป เพราะ 3 ปัจจัยหลักๆ คือ
ปัจจัยที่หนึ่ง มีการแข่งขันด้านราคาของโรงแรมด้วยกันเองค่อนข้างสูง เพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจำนวนห้องพักเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% จากเดิมประมาณ 38,000 ห้อง เป็น 42,000 ห้อง ซึ่งนับรวมสถานที่พักที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม เช่น อาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น บริเวณแถวป่าตองสาย 2 และสาย 3 ที่ก่อสร้างใหม่และปรับเป็นที่พักกว่า 1,000 ห้อง อีกทั้งเอเย่นต์ต่างประเทศปรับพฤติกรรมการจองโดยรอจนถึงใกล้ๆ ปลายปีและดูว่าใครให้ราคาดีมีโปรโมชัน ทั้งๆ ที่มีการเซ็นสัญญาราคาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ”
ปัจจัยที่สอง คือ ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นมาทำให้ชาวยุโรปซึ่งมีปัญหาด้านเศรษฐกิจในประเทศเขา อยู่แล้ว ลดการท่องเที่ยวหรือไปเที่ยวในแถบยุโรป เช่น ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสและอิตาลี แทน
ส่วนปัจจัยสุดท้ายคงหนีไม่พ้นเรื่องของความไม่มั่นใจด้านความสงบของ ประเทศ ถึงแม้ปัจจุบันจะลดลงไปมาก แต่การจะวางแผนการท่องเที่ยวของชาวยุโรปจะทำกันล่วงหน้า 4-6 เดือน ซึ่งบางรายไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือมีสถานการณ์ในประเทศไทยในช่วงที่จะ เดินทาง
ทั้งนี้ ภาครัฐควรเตรียมช่วยผู้ประกอบการรับมือ โดยเฉพาะช่วง Low season ทั้งนี้ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ตคงต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี และจะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันตกเป็นสำคัญ
“ จริงๆ แล้ว ควรจะเข้ามาสนับสนุนให้สถาบันการเงินช่วยผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อย โดยเฉพาะรายที่เปิดใหม่ ทางสถาบันการเงินควรปล่อยสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องหรือพยุงธุรกิจในช่วง ที่ยังขาดทุน แต่ภาครัฐก็ต้องมีโครงการที่จะลดความเสี่ยงให้กับสถาบันการเงินควบคู่กันไป เช่น ใช้ บสย. เข้าช่วยค้ำประกันบางส่วน โดยกระทรวงการคลังอาจช่วยแบ่งภาระการชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันครึ่งนึ่ง แทนผู้ประกอบการ ซึ่งโครงการนี้สามารถนำไปใช้กับบริเวณท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันหรืออาจจะหนักกว่า อาทิ จ. เชียงใหม่ สำหรับวงเงินที่น่าจะเพียงพอคงไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ” นายปิยะ กล่าวในมุมที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงินจากธนาคารกรุงเทพฯ
ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 8 ธ.ค. 53
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
9 ธันวาคม 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น