ส.สินเชื่อแนะรัฐกระตุ้นศก.ผ่านบ้านมือสอง

สมาคมสินเชื่อที่ อยู่อาศัย แนะรัฐกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านบ้านมือสอง ยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนถาวร เดินหน้าจัดงาน เอ็นพีเอ แกรนด์ เซลครั้งที่ 11

นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า ปัจจุบันมีทรัพย์สินรอการขายหรือทรัพย์อสังหาริมทรัพย์มือสองที่อยู่กับ ธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด (ไม่รวมสถาบันการเงินเฉพาะกิจ) รวม 1.33 แสนล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงสิ้นปี 2552 ที่มีอยู่ 1.38 แสนล้านบาท แม้ยอดทรัพย์มือสองจะลดลงไม่มาก แต่ธนาคารพาณิชย์ก็ไม่ได้เน้นเป้ายอดขายมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแบงก์แต่ละแห่งมีสภาพคล่องมาก อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ผ่อนปรนกฎเกณฑ์ จึงไม่กระทบรายได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม มองว่าอสังหาริมทรัพย์มือสองถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่ภาครัฐไม่ค่อยให้ความสำคัญเมื่อเทียบกับบ้านจัดสรรของภาคเอกชน ที่มีการออกมาตรการลดค่าธรรมเนียมหรือภาษีต่างๆ ทั้งนี้ หากเห็นว่า เมื่อการลดหรือการไม่จัดเก็บค่าธรรมเนียมการโอนมีผลทำให้เศรษฐกิจเติบโต รัฐเองก็น่าจะยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการโอนถาวร ซึ่งก็ต้องรวมบ้านมือสองที่อยู่นอกโครงการจัดสรรด้วย

"ในช่วง เศรษฐกิจไม่ดีรัฐบาลกระตุ้นด้วยการลดภาษี หรือค่าธรรมเนียมซื้อขายอสังหาฯ เมื่อการทำแบบนี้มันช่วยได้แล้วทำไมไม่ลดหรือเลิกเก็บถาวร เพราะอย่าลืมว่าอสังหาฯ มีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องเยอะ และไม่ควรคิดเฉพาะสูญเสียการจัดเก็บภาษีเพียงธุรกิจๆ เดียว” นายกิตติ กล่าว

นอกจากนี้ นายกิตติกล่าวต่อถึงการจัดงาน เอ็นพีเอ แกรนด์ เซล 2010 หรืองานมหกรรมบ้านมือสองและอสังหาริมทรัพย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 ก.ค.2553 ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ ว่า มีสถาบันการเงินร่วมงาน 11 แห่งพร้อมกับผู้ประกอบการเอกชน โดยในงานมีการนำทรัพย์มือสองมาลดราคาสูงสุด 70% พร้อมกับโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมการโอนให้ลูกค้าต่อ โดยตั้งเป้ายอดขาย 3 วันใกล้เคียงกับปีก่อน 2,000 ล้านบาท

ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย เลขาธิการสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า นับจากนี้ไปอีก 3 ปี แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50-0.75% ในเดือนส.ค.นี้ ทำให้ดอกเบี้ยนโยบาย (อาร์พี 14 วัน) ขยับขึ้นจาก 1.25% มาอยู่ที่ 2.00%

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 29 มิ.ย. 53