ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
26 เมษายน 2553

กรมธนารักษ์-กรมที่ดิน โอดรัฐบาลอนุมัติงบไทยเข้มแข็ง 2 ทำศูนย์ข้อมูลโฉนดดิจิตอล - ประเมินที่ดินรายแปลงรับภาษีที่ดินใหม่ แค่ 300 ล้านบาท จากที่เสนอขอร่วมกันไป 4,500 ล้านบาท ในร่างก.ม. เผย 2ปี 2553-2554 ได้ไม่เกิน 8 จังหวัด กทม.-ปริมณฑลรัศมีไม่เกิน 100กิโลเมตร

นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดินเปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ.... และ เห็นชอบให้อนุมัติงบไทยเข้มแข็ง 2 วงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ดินรูปแบบดิจิตอลทั่วประเทศ เพื่อใช้ประกอบการประเมินราคาที่ดินรายแปลงของกรมธนารักษ์ โดยในปี 2553 ได้รับงบจำนวน 50-100 ล้านบาท และปี 2554 วงเงิน 200 ล้านบาท

ทั้งนี้มองว่า เป็นวงเงินที่น้อยเกินไป จากที่กรมที่ดินเคยเสนอขอไปวงเงินจำนวน 4,500 ล้านบาท เพื่อจัดทำระบบโฉนดดิจิตอลรายแปลงให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วย ตัวศูนย์ปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ บุคลากร และข้อมูลทางด้านที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ส่วนหนึ่งจะต้องซื้อจากองค์กรเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันกรมที่ดินเข้าใจว่า รัฐบาลมีงบที่จำกัดและต้องนำไปบริหารโครงการอื่นที่จำเป็นเร่งด่วนก่อน

เนื่องจาก งบมีจำนวนจำกัดดังกล่าว กรมที่ดินจึงหาทางออกดังนี้คือ ในส่วนที่เป็นที่ตั้งของอาคารสถานที่ที่ใช้เป็นศูนย์ข้อมูลหลัก จะใช้อาคารซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของกรมที่ดินบริเวณคลองหลอด เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณไปได้ กว่า 1,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องไปซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารหลังใหม่

แต่ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ ที่เป็นเทคโนโลยีสำคัญ กรมที่ดินยืนยันว่า จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 3,500 ล้านบาท เพราะมีความจำเป็นต้องลงทุนด้านของข้อมูล และต้องติดตั้งอุปกรณ์ด้านคอมพิวเตอร์ตามสำนักงานที่ดินต่างๆให้เชื่อมต่อ ถึงกันทั่วประเทศซึ่งวงเงินจำนวน 300 ล้านบาท

"ประเมินว่า เบื้องต้นสามารถดำเนินการได้เพียงไม่เกิน 8-9 จังหวัด ซึ่งจะอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดปริมณฑลและจังหวัดที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 100 กิโลเมตรจากกทม. โดยวงเงินก้อนแรกไม่เกิน 100ล้านบาท คาดว่าจะได้รับจัดสรร วันที่ 1 กันยายน 2553 หรือ ปลายงบประมาณปี 2553 และวงเงินก้อนที่สอง 200 ล้านบาท จะได้รับในเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้หรือในช่วงต้นปีงบประมาณ 2554 และในปีต่อๆไปจะรอดูว่ารัฐบาลจะจัดสรรให้ต่อเนื่องหรือไม่ และหากได้รับอนุมัติเพียงเท่านี้ก็สามารถพัฒนาระบบได้เพียง 8-9 จังหวัดดังกล่าว"

อธิบดีกรมที่ดินกล่าวอีกว่า เมื่อระบบฐานข้อมูลด้านโฉนดดิจิตอลไม่สามารถดำเนินการได้ครอบคลุมทั่ว ประเทศ จะมีผลกระทบต่อการประเมินที่ดินรายแปลงของกรมธนารักษ์ ที่จะต้องใช้ฐานข้อมูลจากกรมที่ดินซึ่งจะทำให้งานล่าช้าออกไป และไม่สอดรับกับการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินที่จะบังคับใช้ในอนาคต เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียกเก็บรายได้ดังกล่าว

ขณะที่แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์กล่าวว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์ยังไม่ได้ประเมินที่ดินรายแปลง จำนวน 30 ล้านแปลงทั่วประเทศ เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่แต่อย่างใด ซึ่งปัจจุบันยังคงตัวเลขที่ดินรายแปลงที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้แล้วเพียง 5,600,000 แปลง เท่านั้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตกทม. ทั้งนี้ เนื่องจากกรมไม่มีงบประมาณ และ บุคลากรมีอยู่อย่างจำกัด เพียง 300 คน ขณะเดียวกัน หากจะประเมินได้ จะต้องรอศูนย์ข้อมูลของกรมที่ดินที่สามารถออนไลน์โฉนดที่ดินทุกแปลงทั่ว ประเทศให้เสร็จเรียบร้อยก่อน

แต่มีปัญหาว่า กรมที่ดินได้รับจัดสรรเงินน้อยเกินไป จากเดิมที่กรมธนารักษ์และกรมที่ดินได้กำหนดวงเงินไว้ในร่างภาษีที่ดินกับ กระทรวงการคลัง วงเงิน 4,500 ล้านบาท และ เมื่อร่างภาษีที่ดินผ่านความเห็นชอบจากครม. วงเงินที่จัดทำโฉนดดิจิตอลและประเมินที่ดินรายแปลง จะต้องได้รับอนุมัติวงเงินไปด้วยโดยปริยาย เพราะหากไม่ระบุลงไปในร่างภาษีที่ดินเกรงว่า จะมีปัญหาในทางปฏิบัติตามมาภายหลัง เนื่องจากการบังคับใช้ภาษีที่ดินฉบับใหม่ มีหลายหน่วยงานที่ต้องรับไปดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนหากไม่สัมพันธ์กัน การบังคับใช้กฎหมายก็อาจมีปัญหาได้

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ : 25-28 เม.ย.53

0 ความคิดเห็น: