บริษัทที่ปรึกษาได้ข้อสรุปอุโมงค์ป่าตอง ทางเลือกที่ 2 มีทั้งอุโมงค์และสะพานลอยมีความเป็นไปได้สูงสุด ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การลงทุน และวิศวกรรมจราจร ขณะที่ชาวบ้านชุมชนบ้านมอญออกมาคัดค้านทางเลือกที่ 2 เพราะกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในชุมชน
วันนี้ (27 เม.ย.) เทศบาลเมืองป่าตองร่วมกับศูนย์วิศวกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริษัท แพลนโปร จำกัด และบริษัท เอพซิลอน จำกัด จัดประชุมสัมมนาครั้งที่ 2 การศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่ เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง เพื่อนำเสนอผลการศึกษา แนวทางเลือกทางเข้า-ออกอุโมงค์ และรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ โดยมีนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน
การรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ มีประชาชนในพื้นที่ป่าตองเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีประชาชนกลุ่มที่สนับสนุนโครงการและประชาชนที่คัดค้านโครงการ ซึ่งประชาชนที่คัดค้านโครงการเป็นประชาชนจากชุมชนบ้านมอญ ที่ไม่ต้องการให้เทศบาลและบริษัทที่ปรึกษาเลือกแนวทางเลือกที่ 2 ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทางเข้า-ออกอุโมงค์ มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน ขณะที่กลุ่มชาวบ้านที่สนับสนุนโครงการ มองว่าการขุดอุโมงค์ดังกล่าวจะเป็นการลดอุบัติและแก้ปัญหาจราจรในการเข้าถึง ตัวเมืองป่าตอง
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างถนนทาง หลวงแนวใหม่ เชื่อมกะทู้-ป่าตองหรืออุโมงค์ป่าตอง ได้ข้อสรุปว่าทางเลือกที่ 2 เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด ทั้งทางด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนและทางด้านวิศวกรรมและจราจร รวมทั้งได้เปรียบแนวทางทางเลือกอื่นๆ
แนวทางเลือกที่ 2 มีจุดเริ่มต้นที่ทางหลวงหมายเลข 4026 (ตรงสนามโกคาร์ท) ทางฝั่งกะทู้ กม. 0+850 ในรูปแบบทางแยกระดับดินวางตัวเบี่ยงออกจากถนนเดิมลอดใต้ป่าเขานาคเกิด เป็นอุโมงค์ยาว 1,165 กม. จากนั้นเป็นสะพานข้ามถนนพิศิษฐ์กรณีย์ยาว 204 เมตรเข้าเชื่อมกับถนนตามผังเมืองรวมสาย ก เป็นสามแยกระดับดิน รวม 2.95 กม. ซึ่งหากปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้นจะพิจารณาเป็นสะพานข้ามทางแยกตามแนวทางหลวง หมายเลข 4029 ที่จุดต้นทางและตามแนวถนนตามผังเมืองรวมสาย ก ที่จุดปลายทางในอนาคต
รูปแบบของถนนจะเป็นถนนขนาด 4 ช่องทางจราจร แบ่งทิศทางจราจรด้วยเกาะกลางถนน อุโมงค์เป็นอุโมงค์คู่ขนาด 2 ช่องทางจราจร แต่ละอุโมงค์ห่างกัน 25 เมตร โดยออกแบบให้วางชิดกันในช่วงปากทางอุโมงค์ ส่วนรูปแบบของสะพานนั้นเป็นโครงสร้างคอนกรีตอัดแรงรูปกล่องในที่ขนาด 4 ช่องทางจราจร
อย่างไรก็ตาม แนวทางเลือกที่ 2 นั้น ชาวบ้านมอญที่ป่าตองมองว่า จะกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านมอญ จึงเสนอให้ทางบริษัทที่ปรึกษาย้ายทางเข้า-ออกอุโมงค์ทางฝั่งป่าตองไปยังจุด อื่นๆที่ไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านมอญ
นายวีระ สมบัติ ตัวแทนชาวบ้านมอญ กล่าวว่า ชุมชนชาวบ้านมอญไม่ได้คัดค้านโครงการก่อสร้างอุโมงค์ป่าตอง แต่ไม่เห็นด้วยที่จะเลือกแนวทางเลือกที่ 2 ในการก่อสร้าง เนื่องจากแนวทางเลือกที่ 2 ที่ทางลงเป็นสะพานนั้นลงในพื้นที่ของชุมชนบ้านมอญ หากมีทางเลือกอื่นๆก็ยากที่จะให้ย้ายไปลงในพื้นที่อื่น ประกอบที่ชุมชนบ้านมอญมีราชประทานนุสรณ์ซึ่งเป็นสถานที่ที่ในหลวงเสด็จ ประพาสบ้านมอญเมื่อปี 2502 หากมีการก่อสร้างสะพานจะทำให้บดบังทัศนียภาพของราชประชานุสรณ์ที่ชาวบ้านมอญ เทิดทูน อยากจะให้ทางเทศบาลและบริษัทที่ปรึกษาเห็นใจชาวชุมชนบ้านมอญด้วย
นายรักษ์ศักดิ์ หนูเชต ตัวแทนชุมชนชาวบ้านมอญ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุด หากมีการขุดอุโมงค์ป่าตอง และมีทางลงของสะพานในทางเลือกที่ 2 จะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านมอญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และชาวบ้านก็ไม่มั่นใจว่า เมื่อต้องเวนคืนที่ดินของชาวบ้านที่บ้านมอญจะได้ในราคาท้องตลาดหรือไม่ และจะยังคงถนนสายเดิมที่มีอยู่เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ชาวบ้านจะใช้อุโมงค์ที่ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางทุกครั้ง รถที่จะใช้อุโมงค์จะต้องเป็นรถที่ขนส่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากๆ หรือรถขนาดใหญ่เท่านั้น
ขณะที่ตัวแทนจากฝ่ายที่สนับสนุนโครงการ มองว่า การขุดอุโมงค์ป่าตองนั้นจะเป็นการแก้ปัญหาการจราจรในการเข้าถึงตัวเมืองป่า ตอง เพราะถนนที่ใช้อยุ่ในขณะนี้เป็นถนนที่ตัดขึ้นเขาค่อนข้างจะลาดชันมากทำให้ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมาก หากมีการขุดอุโมงค์จะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ แต่โครงการที่จะเกิดขึ้นนั้น จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อคิดจากประชาชนและภาคส่วนต่างนั้น ทางบริษัทที่ปรึกษาจะนำไปพิจารณาเพื่อปรับเปลี่ยนไม่ให้ส่งผลกระทบต่อ ประชาชน และสิ่งแวดล้อมต่อไป
ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ : 27 เม.ย.53
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
29 เมษายน 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น