อสังหาฯเหมาเข่งขายยกล็อต ทุนไทย-ต่างชาติลุยซื้อของถูก

อสังหาฯ คึกคักรับเศรษฐกิจฝืด ทุนไทย-ต่างชาติไล่ซื้อของถูก ชี้ไตรมาสสามเข้าสู่ยุคเปลี่ยนมือ แปซิฟิค สตาร์ฯ นำร่องเทคโอเวอร์ "รอยัล ราชดำริ" 4 พันล้าน จ่อลงทุนอีกหมื่นล้านฟื้นโครงการร้าง 2 แห่ง ขณะที่ อสังหาฯ ภูเก็ต รับพิษเศรษฐกิจโลกต่างชาติเบรกลงทุน ท่องเที่ยววิกฤติกำลังซื้อในประเทศหด เกิดคดีฟ้องร้องป่วน บีบอสังหาฯ เปลี่ยนมือ

"กรุงเทพธุรกิจ" สำรวจความเคลื่อนไหวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่อเนื่องจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว พบว่ามีการเจรจาเทคโอเวอร์โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายรายตั้งแต่ ปลายปี 2551 ถึงปัจจุบันและมีผู้นำทรัพย์สินทั้งที่ดินเปล่าและที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ออกเสนอขายเพิ่มขึ้น 30-40% ผู้สนใจลงทุนมีทั้งกลุ่มทุนไทย และกลุ่มทุนต่างชาติ ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเจรจา คาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนมือชัดเจนในไตรมาสสาม ทั้งทำเลกรุงเทพฯ และหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก

แปซิฟิคสตาร์จ่อซื้อ"รอยัล ราชดำริ"

แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาการลงทุนใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ล่าสุดมีดีลการลงทุนขนาดใหญ่ที่ใกล้สรุปคือ โครงการรอยัล ราชดำริ บนถนนราชดำริ (ข้างโรงแรมแกรนด์ไฮแอท) ซึ่งมีกลุ่มทุนต่างชาติให้ความสนใจเข้าลงทุนซื้อ คาดจะสรุปได้เร็วๆ นี้ โครงการนี้ดำเนินการโดยบริษัท ราชเพลิน จำกัด พัฒนาที่ดิน 6 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเช่า จาก สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ต่อจากสมาคมศิษย์เก่าเทพศิรินทร์ ซึ่งชะลอการพัฒนามาตั้งแต่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540

เดิมบริษัทราชเพลิน มีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมหรู และอาคารสำนักงาน แต่ได้เปลี่ยนเป็นโครงการสำนักงานอย่างเดียว 2 อาคาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างออกแบบพื้นที่ใช้สอย 2 หมื่นตารางเมตร มูลค่า 4,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี 2551 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2553 (สัญญาเช่า 30 ปี เริ่มต้นปี 2549)

"เท่าที่ทราบมีกลุ่มทุนทั้งในประเทศและต่างชาติ ให้ความสนใจเข้าลงทุนในโครงการรอยัลราชดำริ หนึ่งในนั้นคือ แปซิฟิคสตาร์กรุ๊ป" แหล่งข่าวกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ถือหุ้นบริษัทราชเพลิน ระบุว่าโครงการนี้เป็นการลงทุนระยะสั้นเพื่อขายออก การขายเงินลงทุนในบริษัทราชเพลิน บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากที่ถือหุ้นอยู่ 35% ตั้งแต่ปี 2550 โดยร่วมกับพันธมิตรอีก 2 ราย คือ ซีแลน คอร์ปอเรชั่น และมณียา เรียลตี้

นายอุรเสฏฐ นาวานุเคราะห์ รองผู้อำนวยการด้านบริหารสินทรัพย์ บริษัท แปซิฟิคสตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือแปซิฟิคสตาร์กรุ๊ป ยอมรับว่าโครงการ รอยัลราชดำริ เป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงและน่าลงทุน แต่ยังไม่พร้อมให้รายละเอียด

เล็งลงทุนหมื่นล้านฟื้นโครงการร้าง

แปซิฟิคสตาร์กรุ๊ป เข้ามาลงทุนในไทย ผ่านกองทุนเอเชียเรียลเอสเตทไพร์ม ดีเวลลอปเม้นท์ฟันด์ ซึ่งนายอุรเสฏฐ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเข้าลงทุน 2 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 1 หมื่นล้าน เป็นโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม และค้าปลีก ใจกลางกรุงเทพฯ โดยเป็นอาคารที่สร้างค้างมาตั้งแต่วิกฤติปี 2540 อีกโครงการเป็นที่อยู่อาศัย โรงแรม และรีสอร์ทที่จังหวัดภูเก็ต

"เราพร้อมจะเข้าไปร่วมลงทุนกับเจ้าของเดิม โดยใส่เงินเข้าไป หรือเข้าไปเทคโอเวอร์โครงการ" นายอุรเสฏฐ กล่าว และว่าพร้อมจะร่วมทุนในรูปแบบพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ขณะนี้กองทุนเอเชียฯ มีเงินสะสม 250 ล้านดอลลาร์ (กว่า 8,750 ล้านบาท)

ผู้บริหารแปซิฟิคสตาร์ฯ กล่าวว่า แผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อรองรับกับรายได้ต่อเนื่องจากโครงการที่ได้ลงทุนไปก่อนหน้านี้ มีกำหนดขายและส่งมอบให้ลูกค้าได้ถึงปี 2553 แต่ละโครงการได้เร่งจัดกิจกรรมทางการตลาด เช่น การันตีผลตอบแทน 6% นาน 2 ปี ให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการสาทรการ์เด้นท์ และได้นำห้องชุดที่แต่งเสร็จแล้ว 30 ห้องมาให้ลูกค้าจอง พร้อมกู้ 100% ดอกเบี้ย 0% ปีแรก โครงการเอท ทองหล่อ เรสซิเด้นซ์ ชูแคมเปญดอกเบี้ย 0% ปีแรกเช่นกัน

นอกจากนี้ กลุ่มแปซิฟิคสตาร์ ได้ลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ โดยร่วมทุนกับบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ด้วยการถือหุ้น 49%

ชี้อีก3ปีกองทุนข้ามชาติบุกไทย

นายอุรเสฏฐ เชื่อมั่นว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะมีกองทุนขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนในไทย โดยยังรอจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม ทั้งสภาพเศรษฐกิจ ราคาทรัพย์ และเสถียรภาพทางการเมืองไทยสอดคล้องกับ นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานกรรมการบริหารบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ระบุว่ากลุ่มทุนต่างชาติยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนอสังหาริมทรัพย์ใน เมืองไทย แต่รอดูจังหวะที่เหมาะสม

อนันดาฯบริษัทบริหารเงินลงทุนของกอง ทุนอสังหาริมทรัพย์ ทีเอ็มดับบลิว เอเชีย พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์ 1 ได้ลงทุนไปแล้วเกือบ 7,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเงิน 1,000 ล้านบาท สำหรับซื้อที่ดินมาพัฒนาใหม่อย่างน้อย 2 โครงการ

ซี.พี.คว้าที่ธ.ทหารไทยขึ้นพลาซ่า

ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าประมูลที่ดินพร้อมสิ่ง ปลูกสร้าง ซึ่งเป็นสำนักงานของธนาคารทหารไทย บริเวณแยกพญาไท แต่ไม่ชนะทราบว่าธนาคารทหารไทยได้ตกลงขายอาคารพร้อมที่ดินดังกล่าวให้บริษัท ซี.พี.พลาซ่า จำกัด ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งชนะการประมูลไปในราคากว่า 800 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 อาคารบนพื้นที่ดิน 4 ไร่

ที่ตั้งโครงการนี้ติดแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพญาไท ซึ่งเชื่อมต่อสถานีหลักโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงค์) ที่จะเปิดบริการเดือนธ.ค. ปีนี้ และแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน และ บางซื่อ-รังสิต ในอนาคต

รายย่อยเร่ขายโครงการคึกคัก

นอกจากกลุ่มทุนใหญ่ที่สนใจเข้าเทคโอเวอร์ โครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง มองเห็นโอกาส และมีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยนายวิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด กล่าวว่ามีความสนใจซื้อโครงการคอนโดมิเนียม ย่านรัชดาภิเษก มูลค่าไม่เกิน 300 ล้านบาท ซึ่งมีผู้ประกอบการรายย่อยมาเสนอขายยกโครงการแล้ว 3 ราย เนื่องจากขาดสภาพคล่อง

อสังหาฯภูเก็ตคดีล้นจ่อเปลี่ยนมือ

ความคึกคักในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ยังต่อ เนื่องไปถึงทำเลเมืองท่องเที่ยวหลัก อย่างจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งพัฒนาบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และวิลล่าตากอากาศมากที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลังจากเกิดวิกฤติการเงินโลก ทำให้ลูกค้าต่างชาติชะลอการลงทุน ภาพของอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต เริ่มชะลอตัว

นายธนันท์ ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานชมรมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ที่เคยคึกคักมากเมื่อ 3-4 ปีก่อน เริ่มชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด โครงการเปิดตัวใหม่ลดลง ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาบางราย ก็ชะลอดำเนินการลงเช่นกัน เพราะกำลังซื้อต่างชาติลดลง

ขณะเดียวกัน กำลังซื้อของคนในท้องถิ่นก็มีปัญหา เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว รายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว เมื่อภาวะท่องเที่ยวชะงักกลุ่มลูกค้าคนไทย ก็ได้รับผลกระทบ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ โครงการอสังหาฯ ที่เน้นตลาดคนไทย มีปัญหามาก การขายสะดุด การก่อสร้างเริ่มมีปัญหา มีการฟ้องร้องต่อเนื่องระหว่าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง, เจ้าของโครงการ, สถาปนิก, วิศวกร คาดว่าหลังจากนี้ไปจะมีการเปลี่ยนมือเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 08-06-52