สภาสถาปนิก ออกโรงคัดค้านก.ทรัพยากรออกประกาศคอนโดพื้นที่ใช้สอย 4 พันตร.ม.ต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม แนะจับโครงการถมทะเลพันไร่ที่มาบตาพุด
นางนิศากร โฆษิตรัตน์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ทางสผ.ในฐานะฝ่ายเลขานุการบอร์ดสิ่ง แวดล้อม ได้บรรจุวาระเข้าพิจารณาหลายประเด็น
โดยเฉพาะการนำรายชื่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) พิจารณาอีไอเอทั้ง 10 คณะที่ครบวาระดำเนินงานครบ 3 ปี เข้าพิจารณาในที่ประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังได้เสนอวาระเร่งด่วนกรณีที่สภาสถาปนิกออกมาคัดค้าน ออกประกาศทส. เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 52 เรื่องกำหนดประเภทและขนาดของโครงการหรือกิจการ ที่ต้องทำรายงานอีไอเอ ที่ให้เปลี่ยนแปลงขนาดพื้นที่ใช้สอยอาคาร จากเดิม 10,000 ตร.ม.ขึ้นไป ปรับเป็นอาคาร ที่มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 4,000 ตร.ม.ขึ้นไปต้องทำอีไอเอ เพราะเห็นว่าทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าอาจจะกระทบต่อการลงทุน และขยายกิจการคอนโด ซึ่งถือเป็นความคลาดเคลื่อน โดยสผ.ยืนยันว่าอาคารที่มีการยื่นขออนุญาตไปแล้วก็สามารถดำเนิน การต่อไปได้ทันที
ทั้งนี้ จะเสนอให้บอร์ดพิจารณาขยายเวลาเพิ่มเติมได้อย่างน้อยอีก 3 เดือน
“เรื่องนี้ ยอมรับว่าเกิดจากผู้ที่ไม่อยากปฏิบัติตามกฎหมายมากกว่า เพราะกรณีการสร้างคอนโด อาคารชุดขนาด 80 ห้องขึ้นไปก็บังคับให้ทำอีไอเออยู่แล้ว แต่เมื่อต้องถูกบังคับทั้งจำนวนห้อง และครอบคลุมพื้นที่ใช้สอยด้วย ก็อาจกระ ทบกับคอนโดที่สร้างไปก่อน โดยขออนุญาตตามมาตรา 39 ทวิของพ.รบ.ควบคุมอาคาร ”
เลขาธิการ สผ. กล่าวถึงกรณีการเสนอโครงการถมทะเลในเขตนิคมอุตสาหกรรมาบตาพุด จ.ระยองว่า โดยหลักการการถมทะเลต้องทำอีไอเออยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้สผ.ยังไม่ได้รับอีไอเอจากเจ้าของโครงการ ซึ่งที่ผ่านมาการถมทะเลในเขตมาบตาพุดในเฟส 1 ได้ส่งผลให้เกิดการกัดเซาะในหลายพื้นที่แล้ว
ขณะนี้ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชาย ฝั่ง (ทช.) ได้ประเมินผลกระทบอย่างละเอียดอยู่ และอาจใช้เป็นข้อมูลในการนำมาประกอบการพิจารณาขยายการถมทะเลในเฟส 2 ที่กำลังจะเริ่มดำเนินการ ด้วย
ส่วนการพิจารณาอีไอเอโครงการในมาบตาพุดที่กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นห่วงว่า ติดเงื่อนไขอีไอเอ และกระทบกับการลงทุน 4 แสนล้านนั้น เข้าใจว่าปัญหาอยู่ที่มาตรา 67 ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 มากกว่า การพิจารณาอีไอเอของสผ. เพราะส่วนใหญ่โครงการจำนวน 42 โครงการในแผนการลงทุนนั้น ส่วนใหญ่ผ่านความเห็นชอบโครงการไปแล้ว
ส่วนอีก 20 โครงการที่เหลือนั้นเป็นโครงการที่มีการปรับปรุงตามมาตรการอีไอเอ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะอยู่ในโครงการของใครก็ต้องว่าตามหลักวิชาการ ผลกระทบดูตามเหตุผล ตามข้อเท็จจริง
ด้าน นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จ.ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้กำลังมีความพยายามของบริษัทเอกชน เตรียมเสนอแผนขยายท่าเทียบเรือ และถมทะเลในเขตพื้นที่มาบตาพุดรวมแล้วกว่า 1 , 000 ไร่เพิ่มเติม ซึ่งบางโครงการอีไอเอผ่านความเห็นชอบไปเรียบร้อยแล้ว และบางรายอยู่ในขั้นตอนการว่าจ้างที่ปรึกษา
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ เสนอให้สำรวจการรองรับของแหล่งทะเล การทำท่าเทียบเรือและถมทะเลว่าจะมีผลกระทบอะไรเพิ่มหรือไม่ รวมทั้งการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย
นอกจากนี้ เสนอว่าควรพิจารณาการทำสิ่งปลูกสร้างทางทะเล เป็นแพคเกจ ไม่ใช่พิจารณาเป็นโครงการและต้องเข้ากรอบมาตรา 67 อีกทั้งใน 19 มิ.ย.นี้ ทางเครือข่ายฯ เตรียมจะเดินทางจะมาฟ้องร้องศาลกลาง เพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีการดำเนินโครงการในพื้นที่มาบตาพุดให้เป็นไปตาม กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ด้วย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 09-06-52
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
10 มิถุนายน 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น