กรมที่ดินสกรีนเข้มสกัดนายทุน-นักการเมืองสวมรอย เช่าที่ดินสาธารณะ ซ้ำรอย สปก.4-10 ยันให้ชาวบ้านช่วย เป็นหูเป็นตาพบพิรุธ เพิกถอนทันที ที่ผ่านมายังไม่มีการร้องเรียน แต่ยอมรับมีรายการซิกแซก ลักไก่ให้เช่าเซ้งต่อเป็นทอด ๆ เหมือนกรณีใบจอง ก่อนออกนส.3 -โฉนด/ แน่ โดยใช้เครือญาติ กระจายถือครองคนละ ไม่เกิน 15 ไร่
นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า สืบเนื่องจาก นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.3) มีนโยบายให้กรมที่ดินเดินหน้าออกหนังสือนสล. หรือ หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ที่อนุญาตให้ประชาชนที่บุกรุกเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณะ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตาม ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการอนุญาตให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ พ.ศ. 2547 ซึ่ง การคัดเลือกแปลงที่ดินสาธารณประโยชน์ที่มีหลักฐานนสล. หรือ กรณียังไม่มีหลักฐานนสล.ที่ให้ประชาชนเช่า จะพิจารณาจาก การบุกรุกของประชาชนเข้าอยู่เต็มพื้นที่ 100% ในที่ดินผืนนั้นเท่านั้น
ดังนั้นกรมที่ดินจะสามารถตรวจสอบได้ง่าย ว่า ผู้เข้าครอบครองที่ดินหรือผู้บุกรุกปัจจุบัน ที่ต้องการที่ดินทำกิน กับ ชื่อเจ้าของผู้เช่าที่กรมจะออกหนังสืออนุญาต จะเป็นบุคคลคนเดียวกัน และหากมี กลุ่มคนที่มาใหม่หรือ มีลักษณะการสวมรอยหรือนอมินี ของกลุ่มนายทุน จะสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านและท้องถิ่นจะเป็นผู้ตรวจสอบกันเอง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นก็จะร้องเรียนมายังกรมที่ดิน ซึ่งกรมจะทำหน้าที่เพิกถอนสิทธิการอนุญาตและให้พ้นจากที่ดินแปลงนั้นทันที
ต่อข้อถามที่ว่า มีการร้องเรียนมามีกลุ่มนายทุนและนักการเมืองเข้าครอบครองที่ดินโดยใช้ ชาวบ้าน คนงานเป็นนอมินี เหมือนกับกรณีของ สปก.4-01 หรือไม่ นายอนุวัฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน มาปีกว่า ยังไม่พบว่า มีการร้องเรียนในลักษณะนี้เข้ามา เพราะหลายพื้นที่มีความกันดาร ทำเลไม่ดี แต่กรมจะไม่ทิ้งประเด็นดังกล่าว และจะต้องตรวจสอบ ให้รอบคอบ
นอกจากนี้ยอมรับว่า ทุกที่ย่อมมีลักษณะซิกแซก เพื่อให้ได้ที่ดิน เนื่องจากบางรายบุกรุกครอบครอบที่ดินเกินกว่า 15 ไร่ต่อครอบครัว ตามเพดานที่กฎหมายกำหนด แต่จะใช้วิธี ให้ญาติพี่น้อง ลูกหลาน เช่า กระจายติดต่อเป็นผืนเดียวกัน ซึ่งตามระเบียบแล้วกรมจะไม่อนุญาต ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปและอีกกรณี จะมีลักษณะการเปลี่ยนมือให้เช่า แต่ระเบียบอนุญาตให้ครอบครัวละไม่เกิน 5 ปี จากนั้นจะต่อใบอนุญาตให้ ซึ่งในช่วงเวลา 5 ปีนี้ อาจจะ ให้ผู้อื่นเช่าและคิดค่าตอบแทนเอง แต่พอใกล้จะครบกำหนด 5 ปี เจ้าของเดิมก็จะแสดงตัวเพื่อต่ออายุสัญญา กับรัฐ ซึ่งลักษณะแบบนี้เคยเกิดขึ้นกรณีใบจอง ที่ผู้ครอบครองจะนำมาขอออกเอกสารสิทธิ นส.3 ระหว่างนั้น ห้าม ขายต่อแต่ปรากฏว่า ส่วนใหญ่จะลักไก่เปลี่ยนมือหรือ ให้ผู้อื่นเข้าทำประโยชน์ เป็นทอดๆ
สำหรับแผนในปีงบประมาณ 2552 (ตุลาคม 2551-กันยายน 2552) มีเป้าหมายจัดสรรที่ดินสาธารณะ ให้ประชาชนเช่าทำกิน 9,100 แปลง และ ปีงบประมาณ 2553 มีเป้าหมาย 9,100 แปลง ซึ่งในจำนวนนี้ ประชาชนจะได้สิทธิไม่เท่ากัน บางราย ได้สิทธิเพียงแค่ที่อยู่อาศัยไม่กี่ตร.ว. แต่เพดานไม่เกิน 15 ไร่ โดยปีงบประมาณ 2552 มีจังหวัดจัดส่งโครงการให้กรมที่ดินพิจารณารวม 27 จังหวัด ได้แก่
จังหวัดกำแพงเพชร ขอนแก่น ชัยนาท เชียงราย เชียงใหม่ ชุมพร นครปฐม นครศรีธรรมราช นครราชสีมา น่าน บุรีรัมย์ พะเยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สงขลา สุโขทัย สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุดรธานี อุตรดิตถ์ และ อุบลราชธานี
โดยขณะนี้กรมที่ดินอนุมัติ โครงการจำนวน 6,448 แปลง อยู่ระหว่างเสนอกรมที่ดินพิจารณาจำนวน 1,040 แปลง และคาดว่าจะส่งโครงการให้กรมที่ดินพิจารณาอีก จำนวน 2,256 แปลง ใน พื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด เลย และศรีสะเกษ คาดว่าปีงบประมาณ 2552 สามารถดำเนินการจัดที่ดินให้แก่ราษฎรทั้งสิ้น จำนวน 9,744 แปลงซึ่งถือว่าเกินเป้าที่กำหนดไว้ในแผนงาน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2433 07 มิ.ย. - 10 มิ.ย. 2552
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
9 มิถุนายน 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น