ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
4 พฤษภาคม 2552

โบรกเกอร์ ประสานเสียงชู บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI โดดเด่นสุด

หลังจากปัญหาการเมืองเริ่มเข้าส่ภาวะ “ใกล้เป็นปกติ” แม้จะมีคลื่นใต้ น้ำผุดออกมาบ้างเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ถือว่าหนักหนาสาหัสจนถึงขั้นกลียุค นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจขนเงินกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เห็นได้จากวอลุ่มที่กลับเข้ามาเริ่มทะลุหลักหมื่นล้านต่อวันแล้ว จากต้นปีที่เงียบ เหงาแบบสุดๆ แต่ละวันวอลุ่มมีแค่ไม่กี่พันล้านบาทเท่านั้น

นอกจากนี้ หลายบริษัทในตลาดฯ มีการทยอยประกาศจ่ายปันผลออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีหลายแห่งที่มียอดจ่ายเงินปันผลสูงฝากแบงก์ อันเป็นหนึ่งในตัวเร่งที่เรียกความสนใจจากนักลงทุนให้กลับเข้ามาได้

จากการที่แบงก์ชาติประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากการประชุม กนง. ในรอบที่ผ่านมา ส่งผลไปถึงหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แม้ส่วนใหญ่วิ่งทะยานขานรับไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ยังไม่หมดรอบ เพราะบริษัทในกลุ่มนี้หลายแห่งกำลังเตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD ทำให้

ที่ผ่านมาหุ้นหลายบริษัทในกลุ่มนี้วิ่งเป็น ม้าคึกเลยทีเดียว อาทิ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP มีการประเมินว่า สาเหตุที่หุ้นในกลุ่มนี้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างคึกคัก มาจากประเด็นเรื่องผลประกอบการที่น่าจะออกมาดี ประกอบกับใกล้เวลาขึ้นเครื่องหมาย XD จึงทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ

ประเมินนักลงทุนเปลี่ยนกลุ่มเล่น

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา มีมุมมองว่า ปัจจัยที่หนุนให้นักลงทุนหันมาลงทุนหลักทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น นั้น มาจากเป็นช่วงเปลี่ยนกลุ่มลงทุนโยกจากกลุ่มคอมมูนิตี้ที่มีราคาค่อนข้างสูง แล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ ยังถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ความมั่นคงในเรื่องผลประกอบการยังมีค่อนข้างสูงประกอบกับช่วงต้นเดือน พฤษภาคม เป็นช่วงของการขึ้นเครื่อง หมาย XD ในหลักทรัพย์กลุ่มอสังหาฯ หลายตัว อาทิ AP, L&H, QH จึงทำให้นักลงทุนเริ่มเข้ามาซื้อเพื่อรอรับเงินปัน ผล ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลงมา อาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนและหนุนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน เนื่องจากเป็นปัจจัยที่รับรู้มานาน เเล้วกลยุทธ์การลงทุน เลือก SPALI เป็นหุ้นเด่น โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาเหมาะสมที่หุ้นละ 3.00 บาท

ประเมิน SPALI โดดเด่นที่สุด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน ระบุว่า ภาพรวมหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/52 เติบโตดีกว่าไตรมาส 1/51 เพราะในไตรมาสนี้ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศ ใช้ในช่วงต้นปี 2552 นอกจากนี้ ที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง หลังหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าในช่วงปลายปี 2551 ผลประกอบการและยอดขายอาจจะตกต่ำตามภาวะเศรษฐกิจการเมืองที่กดดันต่อความมั่น ใจในการเข้าซื้อโครงการ แต่อย่างไรก็ตาม พบว่ายอดขายในช่วงไตรมาส 1/52 เติบโตกว่าที่หลายฝ่าย คาดการณ์กันไว้ จึงส่งผลดีหนุนต่อบรรยากาศการลงทุนในหุ้นกลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ ประเมิน SPALI โดดเด่นที่สุด ในส่วนของกำไรในงวดไตรมาส 1/52 โดยคาดการณ์ว่ามีกำไรสุทธิ 503 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ 170% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียว กันปีก่อน เพราะมียอดรับรู้รายได้เติบโตมาจากโครงการ River Place ประมาณ 1,360 ล้านบาท ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างดี อยู่ระหว่าง 40-45% ทั้งปีคาดการณ์กำไรไว้ที่ 1,076 ล้านบาท จึงแนะนำซื้อ SPALI ให้ราคาเหมาะสม 3.30 บาท

แนะเลือกลงทุนกองทุนอสังหาฯ ดีกว่าหุ้น

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ให้คำแนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น นักลงทุนควรหันมาพิจารณาเลือกลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะดีกว่า เพราะถือว่าทำได้ง่ายและเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนอย่างมี ประสิทธิ ภาพในภาวะที่เงินฝากให้ดอกเบี้ยต่ำ

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบการลงทุนในหุ้นอสังหาริมทรัพย์และกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะ เป็นการแยกระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนออกจากกันคือ หุ้นอสังหาริมทรัพย์จัดเป็นการลงทุนที่ความเสี่ยงสูงแต่ผลตอบแทนก็สูงในทิศ ทางเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันมีหุ้นอสังหาริมทรัพย์หลายตัวที่ให้อัตราตอบแทน จากเงินปันผลหรือ Dividend Yield สูงกว่า 10% เพราะราคาได้ตกลงมามากตามภาวะตลาดฯ เช่น LPN มี Dividend Yield สูงกว่า 14% ในขณะที่ SC มี Dividend Yield สูงกว่า 10% และ NOBLE ให้ Dividend Yield 10%

ประเมินภาพรวมกลุ่มอสังหาฯ เติบโตไม่มาก

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะไม่เติบโต มากนัก เพราะความเชื่อมั่นของประชา ชนถูกบั่นทอนมากจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและการเมือง ซึ่งแม้หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อาจมีผลประกอบการที่ดี เพราะมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สำหรับ Backlog รวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท แต่ในส่วนของการเติบโตของยอดขายใหม่คงจะไม่ได้เห็นและมีแต่จะถดถอยลงประเมิน จากตัวเลขจีดีพีและตัวเลขการว่างงานที่สะท้อนกำลังซื้อที่ตกต่ำของผู้บริโภค

หมายเหตุ : XD คือ Excluded Dividend หมายถึง ผู้ซื้อไม่มีสิทธิ์ใน เงินปันผลที่จ่ายในงวดนั้น

ที่มา : สยามธุรกิจ 2-5 พค. 52

0 ความคิดเห็น: