ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
7 พฤษภาคม 2552

แม้จะต่างกันทั้งห้วงเวลาและสถานการณ์ แต่ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองรอบล่าสุด ก็ฉุดให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดิ่งลงโดยที่คาดหมายไม่ได้ว่าจะเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เมื่อใด ส่งผลให้ ดีเวลอปเปอร์ต้องพลิกเกมรับแบบ 360 องศา ไม่เว้นแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" ที่อาศัยจุดเด่น ความเป็นองค์กรที่ซึมซับข้อมูลตลาดได้รวดเร็ว ชิงปรับกลยุทธ์รับมือล่วงหน้า

ความ รุนแรงของวิกฤตการเงินโลก บวกกับปัญหาการเมือง ทำให้รายได้ปี 2551 ที่ผ่านมาของค่ายแลนด์ฯ ลดเหลือ 16,008 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 ที่มีรายได้ 19,020 ล้านบาท ราว 15.83% มีกำไรสุทธิ 3,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% จากปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 3,159 ล้านบาท ส่วนปีนี้ เป้าหมายการขายตั้งไว้ที่ 15,450 ล้านบาท ขยายตัวจากปี 2551 เพียงแค่ 1.2% หรือเฉลี่ยต่อยูนิต 4.69 ล้านบาท

"อนันต์ อัศวโภคิน" ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ รายงานสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2551 ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชี้ให้เห็นถึงปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดรับรู้รายได้ของบริษัทน้อยลงกว่าปี ก่อนว่ามาจากปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเมือง

"ที่ผ่านมาธุรกิจอสัง หาฯ เจอปัจจัยลบมาตั้งแต่ต้นปีจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เดือนมกราคมเราแทบจะไม่มียอดขายเข้ามาเลย เพิ่งจะมียอดเข้ามาบ้างในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม แต่มาหยุดชะงักลงอีกในเดือนเมษายน จากสถานการณ์ ความรุนแรงทางการเมือง"

จาก ปัจจัยลบดังกล่าว "อนันต์" ประเมินว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 2552 น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสแรกปี 2551 ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติหรือ จีดีพีที่คาดการณ์ว่าจะติดลบไม่น้อยกว่า 6%

ต้นตำรับบ้านสร้าง เสร็จก่อนขายจึงต้องพลิกกลยุทธ์รับมือทุกวิถีทาง ทั้งในเรื่องของการสร้างรายได้ การระดมทุนโดยยังคงเน้นนโยบายพัฒนาบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในคีย์ซักเซส และกระจายพอร์ตลงทุนไปเล่นในตลาดที่ยังมีดีมานด์ ได้แก่ ทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ จากเดิม 15% เพิ่มเป็น 25% แยกเป็นทาวน์เฮาส์ 10% คอนโดฯ 15% ตามลำดับ และลดสัดส่วนบ้านเดี่ยวจาก 85% เหลือ 70-75%

นอกจากนี้จะ กระจายเงินลงทุนในเข้าไปในบริษัทลูก ทั้งโฮมโปร, แบงก์ LH ตลอดจนธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ฯ ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถทำรายได้เข้ามาเพิ่ม มากขึ้น ดังนั้นปีนี้มีความเป็นไปได้จะขยายการลงทุนในบริษัทลูกเหล่านี้เพิ่มขึ้นอีก

สำหรับแผนระดมทุนผู้บริหารแลนด์ฯ ได้ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นออกหุ้นกู้อายุ 10 ปี วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท โดยจะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและรายย่อยทั้งในและต่างประเทศ ภายในปีนี้หรือต้นปี 2553 เพื่อนำเงินบางส่วนไปไถ่ถอนหุ้นกู้ที่กำลังจะครบกำหนดวงเงิน 7,000 ล้านบาท และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

บิ๊กบอสแลนด์ฯ ยืนยันว่า แม้ปีนี้สถานการณ์ยังไม่ค่อยดี แต่ก็จะพยายามประคับประคองรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นไว้ให้เท่ากับปี 2551 ที่อยู่ในระดับ 32% ด้วยการใช้วิธีควบคุมสต๊อกและลอนช์โปรดักต์ใหม่ในตลาดที่มีดีมานด์ โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ากว่า 16,300 ล้านบาท

" นพร สุนทรจิตต์เจริญ" กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ต้นปี 2552 แลนด์ฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 42 โครงการ แยกเป็นโครงการใน กทม.-ปริมณฑล 32 โครงการ ต่างจังหวัด 10 โครงการ ส่วนโครงการที่จะเปิดใหม่อีก 12 โครงการ จะอยู่ใน กทม.-ปริมณฑล 11 โครงการ และต่างจังหวัด 1 โครงการ มูลค่ารวม 16,389 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ทาวน์เฮาส์ 4 โครงการ และคอนโดฯ 1 โครงการ

ขณะที่ "อดิศร ธนนันท์นราพูล" กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มือการเงินยักษ์อสังหาฯ ระบุว่า ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้านแลนด์ฯ ก็ยังมีความแข็งเแกร่ง โดย ณ สิ้นปี 2551 มีสภาพคล่องรวมจำนวน 1,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 206 ล้านบาท ส่วนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.51% ณ สิ้นปี 2550 เป็น 0.55% ณ สิ้นปี 2551 โดยปีนี้บริษัทตั้งงบฯ จัดซื้อที่ดินไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท พร้อมกับเงินอีก 300 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านอื่นๆ

ภายใต้ สถานการณ์นี้ แม้พี่ใหญ่จะใช้วิธีตั้งรับมากกว่ารุก แต่การประกาศลุยทุกสมรภูมิทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดฯ ก็คงทำให้ยักษ์ระดับรองๆ อดหนาวไม่ได้

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 07-05-52

0 ความคิดเห็น: