ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
24 เมษายน 2552

ปันผลจากกองทุนอสังหาริมทรัพย์ยังดูดีทั้ง Free Hold - Lease Hold ส่วนไตรมาสนี้แม้การเมืองจะวุ่นวายแต่ก็กระเทือนแค่กอง สนามบิน-โรงแรม เล็กน้อย เพราะยังมีประกันผลตอบแทนขั้นต่ำช่วยค้ำอยู่ให้อุ่นใจได้

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล. เอเชียพลัส กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส1/2552 เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนทางเลือกอื่น ๆแล้ว ยังให้ผลตอบแทนสูงราว 8-10%

สำหรับกองทุนแบบถือครองสิทธิการเช่า(Lease Hold) สามารถให้เงินปันผลสูงสุดถึง 10% ขณะที่กองทุนแบบถือครองกรรมสิทธิ์(Free Hold)ให้เฉลี่ยที่ 8.3% ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนที่ 4.5% ขณะที่การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลผลตอบแทนลดลงอยู่ที่ 2.89% เงินฝากประจำ 12 เดือน 2.75% และเงินฝากประเภทออมทรัพย์อยู่ที่ 0.75%

ทั้งนี้เมื่อแบ่งเป็นผลตอบแทนตามประเภทสินทรัพย์ที่กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์เข้าไปถือครองแล้ว กองทุนประเภทสนามบินให้ผลตอบแทนสูงสุดที่ 14.1% ประเภทศูนย์การค้าให้ 11.4% นิคมอุตสาหกรรมให้ 10.1% โรงแรมให้ 9.4% อาคารสำนักงานให้ 9% และประเภทบ้านเดี่ยวให้ 7.9%

สำหรับแนวโน้มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2/2552 นั้นมองว่า ยังน่าสนใจลงทุนอยู่ เนื่องจากโครงสร้างรายได้ของธุรกิจส่วนใหญ่มาจากค่าเช่า ซึ่งค่าเช่าที่เกิดขึ้นไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรุนแรง แม้ว่าสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง จะเปลี่ยนไป ก็ไม่ได้ส่งผลให้ผลตอบแทนย่ำแย่ลงไปมากนัก เพราะมีการค้ำประกันผลตอบแทนขั้นต่ำอยู่

"สภาพโดยรวมแล้วยังถือว่าน่าสนใจอยู่ เพราะรายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้กระทบมากนัก ทว่าผลจากความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น อาจทำให้กองทุนอสังหาริมทรัพย์บางกองมีความสามารถจ่ายเงินปันผลได้น้อยลง ที่อาจจะกระทบมากกว่ากองอื่นๆก็น่าจะเป็นกลุ่มโรงแรมและสนามบิน แต่เนื่องจาก 2 กลุ่มนี้มีการค้ำประกันผลตอบแทนขั้นต่ำตามเกณฑ์ เช่น กองสมุยก็มีการค้ำประกันผลตอบแทนขั้นต่ำที่6% ของเงินต้น 10 บาท ทำให้ผลตอบแทนรวมไม่เปลี่ยนแปลง"

ดังนั้นการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น ถือว่าเหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนสูง หากสามารถรับความเสี่ยงได้ก็เป็นอีกสินทรัพย์หนึ่งที่น่าลงทุนในขณะนี้ เนื่องจากผลตอบแทนยังสูงกว่าการลงทุนอื่น ๆ

โดยแนะนำ 3 กองทุนที่น่าสนใจลงทุนคือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน(TFUND)กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF)และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ซีพีเอ็น รีเทลโกรท(CPNRF)เนื่องจากเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง รายได้ยังดีต่อเนื่อง และมีการค้ำประกันผลตอบแทน จึงมีความปลอดภัยในการลงทุนช่วงนี้

สำหรับมูลค่าตลาดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาส 1/2552 มีมูลค่ารวม 48,467 ล้านบาท แบ่งออกเป็นกองทุนแบบถือครองสิทธิการเช่า 68% และกองทุนแบบถือครองกรรมสิทธิ์ 32% แบ่งเป็นการลงทุนตามประเภทสินทรัพย์ 7 ประเภท ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน 18%, ศูนย์การค้า 29%, โรงแรม12%, อพาร์ทเมนท์ 10%, บ้านพักอาศัย 5%, สนามบิน 12% และ โรงงานอุตสาหกรรม 14%

ขณะที่สิ้นปี 2551 มีกองทุนอสังหาริมทรัพย์รวม 21 กองทุน ซึ่งแบ่งเป็นกองทุนแบบ Lease Hold 12 กอง และแบบ Free Hold 9 กอง เพิ่มขึ้นจาก 16 กองทุนในปี 2550

ทั้งนี้ราคาตลาดของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงมาจาก สินทรัพย์สุทธิเฉลี่ยประมาณ 28.3% จากปี 2550 ที่ปรับตัวลดลงมาประมาณ 13.3% โดยเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลง โดยกองทุนที่มีราคาปรับลดลงมามากที่สุดคือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ยูโอบีอะพาร์ทเมนท์ 1(UOBAPF)ลดลง 61.4% รองลงมาคือกองทุน SPF ลดลง 47.4% และQHPF ลดลง 45.3%

ทั้งนี้การเลือกลงทุนนอกจากจะพิจารณาการถือครองสินทรัพย์ ประเภทสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนที่สูงแล้ว ยังต้องพิจารณาสภาพคล่องในการซื้อขายกองทุนและระดับการเปิดเผยข้อมูลประกอบ ของบริษัทด้วย

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 23-04-52

0 ความคิดเห็น: