ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
25 มีนาคม 2552

ก.ล.ต.เตรียมผ่อนผันถือลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ได้ เกิน 1 ใน 3 แต่ไม่เกิน 50% หวังกระตุ้นการซื้อขายและหนุนกองใหม่เกิดง่ายช่วงเศรษฐกิจซบ

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต.ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นการผ่อนผันหลักเกณฑ์การถือหน่วยลงทุนของกอง ทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เกิน 1 ใน 3 เป็นการชั่วคราว แต่ไม่เกิน 50% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด

วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความต้องการซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์และลดจำนวนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่ซื้อขายหมุนเวียนในตลาด หลักทรัพย์น่าจะส่งผลดีต่อสภาพการซื้อขายและราคาหน่วยลงทุนในช่วงที่ภาวะ เศรษฐกิจชะลอตัว

สำนักงานก.ล.ต. จึงมีแนวคิด ที่จะผ่อนผันให้ผู้ถือหน่วยลงทุน ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สามารถถือหน่วยลงทุนเกินกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดได้ พร้อมกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับ (1) ระยะเวลาการซื้อและขายหน่วยลงทุนส่วนที่เกินกว่า 1 ใน 3 และ (2) ราคาและวิธีการซื้อขายหน่วยลงทุน (3) การนับคะแนนเสียงในการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุน (4) การได้รับเงินปันผล และ (5) การเปิดเผยข้อมูลของผู้ซื้อหน่วยลงทุน โดยสำนักงานก.ล.ต. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจนถึงวันที่ 27 มี.ค. 2552

รายงาน ข่าวจากก.ล.ต. แจ้งว่า การผ่อนผันหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะรวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองใหม่ที่ เตรียมจะเสนอขายให้แก่นักลงทุนทั่วไปด้วย

แหล่งข่าวจากผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) รายหนึ่ง เปิดเผยว่า การเปิดให้ผู้ลงทุน รวมถึงเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เข้ามา ถือหน่วยลงทุนได้มากขึ้นน่าจะเป็นผลดีต่อระบบ เพราะอาจทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่าเจ้าของเดิมไม่ได้นำสินทรัพย์ที่ไม่ดีมาขาย และยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ ผู้ถือหน่วยลงทุนแม้เศรษฐกิจจะ ไม่ดี หากจะเข้ามาถือหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ น่าจะทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองใหม่จัดตั้งได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อเจ้าของลงทุนได้มากกว่าเดิมที่กำหนดให้ถือเพียง 33% ก็จะถือได้เพิ่ม แต่ไม่เกิน 50% ทำให้การระดมทุนของกองทุนน่าจะง่ายขึ้น เพราะระดมเงินในมูลค่าที่น้อยลง

สำหรับกรณีที่จำนวนหน่วยลงทุนที่น้อยลงในตลาดหลักทรัพย์นั้น มองว่าไม่น่าจะช่วยให้สภาพคล่องในการซื้อขายมีเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันผู้ลงทุนซื้อเพื่อรอรับเงินปันผลจึงไม่นำหน่วยลงทุนมาซื้อขาย ในตลาด

ด้านนายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที ยู โดม เรสซิเดนท์เชียลคอมเพล็กซ์ (TU-PF) เปิดเผยว่า ผลจากกรณีที่กองทุนได้เข้าลงทุนในโครงการหอพักนักศึกษาและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ล่าช้ากว่าที่บริษัทได้ประมาณการไว้ บลจ. ไอเอ็นจีจึงจะลดค่าธรรมเนียมการจัดการลง เพื่อไม่ให้กองทุนขาดประโยชน์และเพื่อประโยชน์ของผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน

บลจ.ไอเอ็นจีจะลดค่าธรรม เนียมการจัดการกองทุนเหลือครึ่งหนึ่งตามที่กำหนดไว้ในโครงการจัดการกองทุน รวมเป็นระยะเวลา 3 ปี จากเดิมบริษัทเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการในอัตราไม่เกิน 1% ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนเป็นอัตราไม่เกิน 0.5% ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

ทั้งนี้ การลดค่าธรรมเนียม การจัดการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2552 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2555

ที่มา : โพสต์ทูเดย์ 25-03-52

0 ความคิดเห็น: