ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
5 กุมภาพันธ์ 2552

สมาคมนายหน้าฯ เตรียมเข้าพบรมต.คลังยื่นข้อเรียกร้องมาตรการลดหย่อนภาษีครอบคลุมธุรกิจบ้าน มือสองที่มีจำนวนบ้านมือสองทั่วประเทศกว่า 3 แสนหน่วย

นพ.สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายก สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงมติของคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ด้วยมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ภายในปี 2552 ให้ได้รับการยกเว้นภาษีโดยสามารถนำเงินต้นจากการซื้อบ้านมาหักลดหย่อนค่าใช้ จ่ายเพิ่มได้เท่ากับมูลค่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 300,000 บาท เพิ่มเติมจากที่ให้หักค่าลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมซื้อบ้านเป็นจำนวนไม่ เกิน 100,000 บาท ต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการที่จะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้มาก ขึ้น

แต่มาตรการดังกล่าวช่วยเหลือเฉพาะประชาชนที่ตัดสินใจซื้อบ้านใหม่เท่านั้น ยังไม่ครอบคลุมถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง ทั้งที่บ้านมือสองนั้นเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีจุดเด่นที่แตกต่างจากบ้านใหม่ ที่สำคัญปัจจุบันนี้จำนวนบ้านมือสองทั่วประเทศมีอยู่ในตลาดไม่น้อยกว่า 300,000 หน่วย ซึ่งอยู่ในการดูแลของ 3 ภาคส่วนใหญ่ ๆ ดังนี้

1) บ้านมือสองซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมบังคับคดี
2) บ้านมือสองที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐและเอกชน รวมทั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ของธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ
3)บ้านมือสองที่เป็นทรัพย์ของประชาชนที่ต้องการขาย เนื่องจากต้องการซื้อบ้านหลังใหม่ หรือเพื่อแก้ปัญหาทางด้านการเงิน

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า หากมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงผู้ซื้อบ้านมือสอง จะสามารถช่วยได้ทั้งผู้ประกอบการ องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่รับผิดชอบในการขายทอดตลาด รวมทั้งประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง ที่สำคัญมาตรการด้านภาษีจะมีส่วนทำให้จำนวนบ้านมือสองในตลาดลดลง

“ปัจจุบันบ้านมือสองได้รับการยอมรับจากประชาชนมากขึ้น ทั้งเรื่องทำเลที่อยู่ใกล้เมืองทำให้ประหยัดพลังงานและเวลาในการเดินทาง รวมทั้งมีความหลากหลายด้านราคา รูปแบบบ้านฯลฯ หากรัฐบาลให้ความสำคัญและกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น จะมีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง เนื่องจากการซื้อ-ขายบ้านมือสอง ทำให้เจ้าของบ้านนำเงินออกมาใช้จ่าย ในขณะที่ผู้ซื้อบ้านจะต้องมีการปรับปรุง ซ่อมแซม ก่อสร้างต่อเติมฯลฯ ทำให้เกิดการจ้างงานและการหมุนเวียนของธุรกิจอื่น ๆ ตามมา หากรัฐต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจถึงประชาชนอย่างแท้จริง สมควรที่จะให้มาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงบ้านมือสองด้วย” นพ.สมศักดิ์ กล่าว

นอกจากนั้น ในเร็ว ๆ นี้จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อยื่นจดหมายเรื่องมาตรการส่งเสริมตลาดบ้านมือสอง ตามคำสั่งกระทรวงการคลังเมื่อ 21 ตุลาคม 2548 ตามมติครม.ในเรื่องการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และ พ.ร.บ.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง เพื่อให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของธุรกิจบ้านมือสอง และเป็นการช่วยคุ้มครองดูแลประชาชนผู้ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต่อไป

กรุงเทพธุรกิจ 04-02-2552

0 ความคิดเห็น: