ธอส.ผ่อนลูกค้าติดบัญชีดำกู้บ้าน ตั้งเงื่อนไขต้องชำระหนี้หมด-ยืนเป้าสินเชื่อ 7.3 หมื่นล้าน

ธอส.เปิดเกมดันสินเชื่อบ้าน ผ่อนยอมปล่อยกู้ลูกค้าบัญชีดำในเครดิตบูโร แต่ต้องชำระหนี้หมดก่อน ยืนเป้าปีนี้ 7.3 หมื่นล้าน เชื่อมาตรการภาษีรัฐและดอกเบี้ยต่ำช่วยหนุนให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์คึกคัก

นาย ขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เพื่อบรรเทาปัญหาและช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นในช่วงภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำ ตนจึงได้มอบนโยบายในการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในส่วนของ ผู้ที่ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์ในเครดิตบูโร ซึ่งปัจจุบันผู้ที่ติดบัญชีดำดังกล่าว ทางธนาคารจะไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้ แต่ต่อไปนี้จะพิจารณาลดหย่อนให้กรณีที่ลูกค้าชำระหนี้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว แม้จะมีรายชื่ออยู่ในบัญชีก็ตาม อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะขอยกเว้นสำหรับกรณีลูกค้าที่ถูกบัญชีดำ เพราะไม่สามารถชำระสินเชื่อบ้านได้

"สำหรับผู้ที่ติดเครดิตบูโร เรื่องสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เราคงต้องปฏิเสธไป แต่กรณีติดเรื่องบัตรเครดิต หรือ สินเชื่อรถยนต์ ถ้าเคลียร์ได้ แม้ชื่อจะอยู่ในบัญชี 3 ปี และแสดงให้เห็นว่า มีรายได้ที่น่าพอใจ เราก็ผ่อนปรนให้ได้" นายขรรค์กล่าว

กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า แม้ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ไม่สดใสและเศรษฐกิจจะขยายตัวลดลง แต่ธนาคารยังยืนเป้าหมายสินเชื่ออยู่ที่ 73,000 ล้านบาท โดยไม่ปรับเป้าหมายใหม่ เนื่องจากคาดว่าจะมีหลายปัจจัยที่เข้ามา ทำให้สินเชื่อสามารถเป็นไปตามเป้าหมายได้ โดยนอกจากการผ่อนปรนหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อดังกล่าวแล้ว ในแง่อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็คาดว่าจะปรับลดลงเหลือ 1% ในปีนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ยังมีแผนที่จะสนับสนุนการค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งก็จะช่วยหนุนสินเชื่อดังกล่าวได้

" เท่าที่คุยกับผู้ประกอบการ ก็คาดว่าสินเชื่อบ้านจะคึกคักได้ราวเดือนมีนาคมนี้ ฉะนั้น ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามนี้ เหลือแต่ความมั่นใจของผู้ซื้อบ้านเท่านั้น เพราะเขาต้องแน่ใจในรายได้ ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญ” นายขรรค์กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มเห็นสัญญาณการตกงานของลูกค้าบ้างแล้ว แต่เชื่อว่าคนตกงานจะไม่เป็นลูกค้าของธนาคารทั้งหมด แต่เราก็เตรียมดูแลลูกค้าดังกล่าวด้วย

นายขรรค์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานประจำปี 2551 ว่า ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่แก่ประชาชนลูกค้ารายย่อยเพื่อให้มีที่อยู่ อาศัยเป็นของตนเองได้สูงถึง 123,880 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 81,804 ล้านบาท จากเป้าสินเชื่อทั้งปี 80,000 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 3,306 ล้านบาท ลดลง 10.25% เมื่อเทียบกับกำไรในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 3,683 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 3,600 ล้านบาท โดยธนาคารจะพยายามรักษาระดับดอกเบี้ยรับสุทธิให้อยู่ที่ 2% ขณะที่นโยบายการดำเนินงานยังคงสานต่อภารกิจหลักในการช่วยเหลือให้ผู้มีราย ได้น้อยถึงปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้อย่างทั่วถึง

ที่มา : คมชัดลึก 11-02-2552