ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
30 มกราคม 2552

แชงกรี-ลา สวนกระแสเศรษฐกิจทรุด เซ็นสัญญารับบริหารโรงแรมแห่งใหม่ "แชงกรี-ลา ภูเก็ต" บนหาดบางเทา ดีเดย์เปิดตัวปีหน้า ทุ่ม 2.1 พันล้านบาทปรับโฉม แชงกรี-ลา กรุงเทพฯใหม่ทั้งหมด เน้นคอนเซ็ปต์โมเดิร์นแต่คงเอกลักษณ์เดิม คาดแล้วเสร็จกันยายน 2552 พร้อมปรับกลยุทธ์รับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หันมาขยายฐานทัวริสต์เอเชียเพิ่มขึ้น เจาะตลาดไมซ์และคอร์ปอเรต

นายไมเคิล คอตแทน รองประธานภาคพื้นและผู้จัดการใหญ่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้เครือแชง

กรี-ลาได้เซ็นสัญญากับบริษัท เดอแรม โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด (Durham Holding (Thailand), Ltd.) เพื่อรับบริหารโรงแรมแชงกรี-ลา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งตั้งอยู่หาดบางเทา คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2553

"คอนเซ็ปต์ของแชงกรี-ลา ภูเก็ต" จะเป็นโรงแรมและวิลล่าระดับไฮเอนด์ มีจำนวน 315 ห้อง แบ่งเป็นห้องพัก 223 ห้อง มีขนาดของพื้นที่เริ่มต้นที่ 50 ตร.ม.และแกรนด์ ดีลักซ์ วิลล่า แบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้นที่ 90-280 ตร.ม.จำนวน 92 ห้อง กลุ่มเป้าหมายจะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์"

นอกจากนี้โรงแรมยังมี "CHI" ซึ่งเป็นสปาที่บริหารโดยแชงกรี-ลาด้วย รวมทั้งมีเฮลธ์คลับ สนามเทนนิส สนามสควอช และกีฬาทางน้ำ คิดส์คลับ เอนเตอร์เทนเมนต์เซ็นเตอร์ สระว่ายน้ำขนาด 3,000 ตร.ม. รวมทั้งพื้นที่จัดประชุมขนาด 550 ตร.ม. โดยมีห้องแกรนด์บอลรูมขนาด 165 ตร.ม. สามารถรองรับคนได้กว่า 100-400 คน

นายคอตแทน กล่าวอีกว่า สำหรับโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ มีแผนจะปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ภายใต้งบลงทุนกว่า 2.1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการดีไซน์โดยสถาปนิกชั้นนำของโลก คอนเซ็ปต์ใหม่จะเน้นให้ดูทันสมัย สะดวกสบายและไฮเทคยิ่งขึ้น แต่คงเอกลักษณ์ของแชงกรี-ลาไว้ โดยจะปรับปรุง 2 เฟส เฟสแรก 3 ห้องอาหาร คือ แอนเจลินี ห้องอาหารไทยศาลาทิพย์ เน็กซ์ทู สวน สระว่ายน้ำและห้องประชุมชั้น 1 ทั้งหมด ส่วนเฟสที่ 2 จะปรับปรุงล็อบบี้ทั้งหมด ห้องพัก ห้องแกรนด์บอลรูมและบริเวณโถงด้านหน้า ห้องอาหารจีนแชงพาเลซ ห้องประชุมชั้น 3 และสโมสรสุขภาพ จะดำเนินการเดือนกุมภาพันธ์และคาดว่าจะเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้

"แม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะประสบกับภาวะวิกฤติจากการปิดสนามบินส่งผลให้นัก ท่องเที่ยวชะลอตัวอย่างหนัก ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการปรับปรุงโรงแรมใหม่ ประกอบกับโรงแรมเปิดให้บริการมานานกว่า 22 ปีแล้ว จึงต้องมีการปรับโฉมใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น"

สำหรับแผนการตลาดปีหน้าจะปรับกลยุทธ์ใหม่บุกตลาดเอเชียมากขึ้น เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจโลกคาดว่าจะส่งผลให้ตลาดยุโรปชะลอตัวลง และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นตลาดเอเชียสามารถตัดสินใจเดินทางได้เร็วกว่า

อย่างไรก็ดี สิ่งที่รัฐบาลต้องทำเร่งด่วนคือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งหันไปบุกตลาดไมซ์มากขึ้น และลดสัดส่วนตลาดเลเชอร์ลง เนื่องจากเป็นตลาดที่อ่อนไหวกับสถานการณ์ง่าย โดยสัดส่วนลูกค้าเดิมประกอบด้วย ตลาดเลเชอร์ 40% ตลาดไมซ์ 30% คอร์ปอเรต 15% และอื่นๆ 15% ซึ่งหลังจากนี้โรงแรมจะลดสัดส่วนตลาดเลเชอร์ โดยจะเพิ่มสัดส่วนตลาดไมซ์ขึ้นอีก 5-10% หรือประมาณ 35-40% กลุ่มคอร์ปอเรต ประมาณ 20%

"สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดสำหรับปีนี้คือเรื่องของสงครามราคาที่จะมีการตัด ราคากันอย่างหนักในส่วนของโรงแรมระดับ 3-4 ดาว แต่ระดับ 5 ดาวขึ้นไปคงจะไม่มีปัญหา โดยจะเน้นการเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้ามากกว่า เพื่อภาพลักษณ์ระยะยาวของโรงแรม"

ขณะที่ปัจจุบันนี้หลายประเทศต้องการใช้ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจ ขึ้นมา และไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสูง มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม มีการบริการที่ดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้คนที่ต้องการมาท่องเที่ยวเมืองไทยต้องย้ายไปเที่ยวประเทศอื่นหมด

ทั้งนี้ กลุ่มแชงกรี-ลายังคงเชื่อมั่นในศักยภาพการท่องเที่ยวของไทยและยังคงเดินหน้า ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องไม่เคยคิดจะถอนการลงทุน พร้อมทั้งวางเป้าหมายให้เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเชีย พร้อมทั้งจะเร่งพัฒนาพนักงาน ชูจุดขายเรื่องของการบริการเป็นหลัก

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2396 29 ม.ค. - 31 ม.ค. 2552

0 ความคิดเห็น: