ราคาที่ดินปี 52 แนวโน้มลดลง

ศูนย์ข้อมูลอสังหา ริมทรัพย์ AREA ระบุแนว โน้มตัวเลขราคาที่ดินปี 52 เติบโตลดลง ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การลงทุนและภาวะเศรษฐกิจ ระบุบางทำเล ราคาลดลง อาทิ ชายฝั่งทะเล ตะวันออก เนื่องจากโรงงานปิดตัว

รวมทั้งทำเลชายทะเลตากอากาศ เผยราคาที่ดินเมืองกรุงปี 51 ย่านสยามพารากอนครองแชมป์แพงสุดๆ ตร.ว.ละ 8 แสน

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ AREA บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในรอบปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2551) ราคาที่ดินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 3.5% และคาดว่าปี 2552 นี้ราคาเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นในอัตราลดลงเหลือ 1.5% ณ สมมติฐานว่า GDP ยังจะเติบโตประมาณ 2.0% ในปี 2552 คงเป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจและการเมือง อย่างไรก็ตามพื้นที่บางบริเวณที่มีรถไฟฟ้าผ่านจะมีราคาเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 10% ในขณะที่พื้นที่ที่ผังเมืองกำหนดให้ก่อสร้างได้จำกัด กลับมีราคาลดต่ำลงบ้าง

ทั้งนี้ โดยสรุปแล้ว ราคาตลาดของที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลงจน เกือบไม่มีความเปลี่ยนแปลงในปี 2552 ทั้งนี้เพราะที่ดินก็คืออสังหาริมทรัพย์ประเภทหนึ่งซึ่งเป็นฐานะขึ้นต่อภาวะ เศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจดี ก็จะมีผู้ลงทุนมากหากเศรษฐกิจไม่ดี ก็ไม่มีผู้ลงทุน ซื้อไว้ ยกเว้นผู้ที่เป็นมืออาชีพมีอาชีพเก็งกำไรโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ในปี 2552 แนวโน้มว่าราคาที่ดินในบางบริเวณอาจลดลง เช่น บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก โดยมีเงื่อนไขว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างหนัก จนโรงงานต่างๆ ที่ผลิตเพื่อการส่งออกปิดโรงงาน หรือลดคนงานลง บริเวณชายทะเล สถานที่ตากอากาศต่างๆ โดยมีเงื่อนไขว่า การท่องเที่ยวของไทยยังจะได้รับผลกระทบทางการเมืองอย่างต่อเนื่องและหนัก หน่วงมากยิ่งขึ้นในปี2552 และบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเงื่อนไขว่าความไม่สงบในพื้นที่นี้กลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

สำหรับในปี 2551 ราคาที่ดินที่แพงสุด ณ ขนาด 4 ไร่ (แปลงสมมติมาตรฐานขนาดกว้าง 40 เมตร ลึก 160 เมตร) คือ บริเวณสยามพารากอน ตารางวาละ 8 แสนบาท ซึ่งราคาที่ดินที่ประเมินกับราคาซื้อขายจริงอาจจะต่างกันซึ่งต้องตรวจสอบดู ในขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์ว่าราคาตรงกันหรือไม่

ส่วนราคาประเมินของทางราชการที่ทางกรมธนารักษ์ได้ประกาศไปนั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งสวนทางกับเศรษฐกิจของประเทศและเศรษฐกิจโลก โดยในกรณีนี้ต้องทำความเข้าใจ ว่าราคาที่ทางราชการประกาศนั้น มีชื่ออย่าง เป็นทางการว่า “บัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ เพื่อการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม” ทางราชการปรับปรุงทุกรอบ 4 ปีบัญชีราคานี้มีไว้เพื่อการคำนวณภาษี

โดยเฉพาะในกรณีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต่างๆ เช่น การซื้อขาย การจำนอง และการโอนทรัพย์สินในกรณีอื่นๆ ฯลฯ รอบล่าสุดที่ปรับคือในช่วงปี 2551-2554 ส่วนการประกาศนอกช่วงคือการปรับเมื่อปี 2552 นี้ ปรับเฉพาะบางพื้นที่ กล่าวคือใน 9 เขตจากทั้งหมดจำนวน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร และอีก 120 อำเภอใน 52 จังหวัด จากทั้งหมดราว 7 พันอำเภอในอีก 75 จังหวัดทั่วประเทศ

ส่วนการปรับราคานี้เป็นเพราะทางกรม ธนารักษ์ ปรับราคาที่ประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้ (พ.ศ.2550-2554) ให้สอดคล้องกับราคาตลาดมากยิ่งขึ้นเท่านั้นไม่ได้หมายความว่าราคาที่ดิน เพิ่มขึ้นแต่อย่างไรดังนั้นเราไม่สามารถนำราคาประเมินทางราชการนี้ไปใช้ เพื่ออ้าง อิงประกอบการซื้อ-ขายทรัพย์สินได้เลย

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 08-01-2552