ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
29 ธันวาคม 2551

บิ๊ก ดีเวลอปเปอร์ลุ้นรัฐเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีดบ.ผ่อนบ้าน วิจารณ์แซดเอื้อประโยชน์บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ เผยคนซื้อบ้าน 4-5 ล้านขึ้นไปรับส้มหล่น ด้าน ธอส.เตรียมออกแพ็กเกจช่วยลูกค้า

รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังจุดประกายความหวังให้กับผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการภาคธุรกิจอสังหาริม ทรัพย์ หลังนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยจะเพิ่มวงเงินให้สามารถนำดอกเบี้ยผ่อนชำระค่างวดบ้านไปหักลดหย่อนภาษี จากปัจจุบันไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นไม่เกิน 2 แสนบาท ขณะเดียวกันจะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านที่ประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นการเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยบ้าน ที่ถูกมองว่าน่าจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ซื้อบ้านระดับราคา 4-5 ล้านบาท/ยูนิตขึ้นไปมากที่สุด

@บิ๊กอสังหาฯส้มหล่น
แหล่งข่าวจากวงการ อสังหาริมทรัพย์ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ แต่อยากให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบว่าการปรับเพิ่มวงเงินหักลดย่อนดอกเบี้ย ซื้อบ้านจาก 1 แสนบาท เป็น 2 แสนบาท ผู้ซื้อบ้านและผู้ประกอบการกลุ่มใดจะได้ประโยชน์สูงสุด และสามารถกระตุ้นกำลังซื้อได้จริงหรือไม่ เบื้องต้นผู้ที่ได้รับประโยชน์คือผู้ซื้อบ้านในระดับราคา 5-8 ล้านบาท เพราะจะสามารถนำดอกเบี้ยบ้านไปหักลดหย่อนได้เต็มจำนวน แต่ผู้มีรายได้น้อยหรือรายได้ปานกลางที่ซื้อบ้านราคาถูกไม่ได้รับประโยชน์ มากนัก ขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่ได้อานิสงส์จากมาตรการนี้จะเป็นผู้ประกอบการราย ใหญ่ที่พัฒนาโครงการระดับกลางไปจนถึงระดับบน

ด้านนายทองมา วิจิตรพงษ์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า ตามความเข้าใจของตนวิธีการนี้น่าจะทำให้เงินในกระเป๋าประชาชนเพิ่มมากขึ้น สมมติพนักงานมีเงินเดือนแล้วซื้อบ้าน ปกติจะมีโครงสร้างภาษีที่ต้องจ่าย 20% ได้ลดหย่อนประมาณ 20,000 กว่าบาท ความหมายคือ ทำให้เสียภาษีน้อยลง หรือในกลุ่มอื่นที่มีโครงสร้างรายได้ที่ต้องเสียภาษี 37% ก็มีส่วนที่จะได้ลดหย่อนเงินภาษีได้ประมาณ 30,000 กว่าบาท

"ยกตัวอย่าง สมมติว่าคุณมีเงินเดือน 100,000 บาท คูณ 12 เดือน เท่ากับ 1,200,000 บาท หักลดหย่อนประกัน หรือค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ ประมาณ 30,000 บาท ค่าประกันชีวิตอีก 100,000 บาท มีภาระผ่อนบ้านเดือนละ 30,000 บาท 1 ปีผ่อนทั้งหมด 300,000 กว่าบาท และมีค่าลดหย่อนอื่นๆ อีก 100,000 บาท ก็จะทำให้เสียภาษีเงินได้ลดลง 20,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับโครงสร้างทางภาษีของแต่ละคน ถามว่าใครได้ประโยชน์ ผมว่าทุกกลุ่ม เพราะคนซื้อบ้านส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน การลดหย่อนภาษีจึงเป็นประโยชน์ทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าได้ ถ้าเขาสามารถลดเงินที่ต้องไปเสียภาษี/ปี 20,000-40,000 บาท ก็จะทำให้มีภาระทางการเงินน้อยลง จะได้เอาเงินไปจับจ่ายใช้สอย ทำให้กำลังซื้อสูงขึ้น" นายทองมากล่าว

@ 3 สมาคมอสังหาฯยื่น 4 ข้อเรียกร้อง
นาย อธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา 3 สมาคมอสังหาฯได้เข้าพบกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ทั้งนี้ตัวแทน 3 สมาคมได้เสนอแนวทางในการช่วยเหลือธุรกิจอสังหาฯ ประกอบด้วย 1.การขยายระยะเวลาสัญญาเช่าที่ดินจาก 30 ปี เป็น 90 ปี เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อชาวต่างชาติ 2.เสนอขอแก้ไขกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุน เช่น การกำหนดให้โครงการจัดสรรตั้งแต่ 250 แปลงขึ้นไปต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งสร้างปัญหาให้กับผู้ประกอบการรายกลางและเล็ก 3.สัญญามาตรฐานในการซื้อขายคอนโดมิเนียม ที่ยังไม่มีการนำมาสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และ 4.ให้รัฐบาลดูแลอัตราดอกเบี้ยซื้อบ้านไม่ให้ผันผวนมากเกินไป

@ธอส.ออกมาตรการอุ้มลูกค้าสวัสดิการ
ขณะ ที่นางจามรี เศวตจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธอส.กำลังพิจารณามาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนสำหรับลูกค้ากลุ่มสวัสดิการที่ ความสามารถในการผ่อนชำระค่างวดบ้านลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง เบื้องต้นได้เตรียมแพ็กเกจช่วยเหลือรูปแบบใหม่ไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยลายละเอียดได้ เพราะต้องเสนอให้คณะกรรมการธนาคาร (บอร์ด) พิจารณาอนุมัติก่อน และรอให้นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. ซึ่งติดภารกิจในต่างประเทศพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะดำเนินการได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2552

"มาตรการที่จะออกมาจะมาช่วยกลุ่มลูกค้าชั้นดีของธนาคารที่มี ซึ่งมีกว่า 40% ของพอร์ตสินเชื่อ เป้าหมายคือช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มนี้ในระยะสั้น โดยระบุกรอบเวลาในการช่วยเหลือชัดเจน และล้อไปกับ core bank ของธนาคารด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและมีขั้นตอนดำเนินงานที่ยุ่งยากพอสมควร " นางจามรีกล่าว และว่า

ที่ผ่านมาธนาคารได้ทำหนังสือไปยังบริษัทเอกชนที่เข้าโครงการสวัสดิการกับ ธนาคาร เพื่อให้ช่วยติดตามความเคลื่อนไหวของพนักงานที่ขอสินเชื่อซื้อบ้านจาก ธอส.อย่างใกล้ชิด และหากพบว่าพนักงานรายใดประสบปัญหาในการผ่อนค่างวดบ้านก็แจ้งให้ ธอส.ทราบโดยเร่งด่วน เพื่อจะได้หามาตรการช่วยเหลือได้ทันที

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 28/12/2551

0 ความคิดเห็น: