“เสธ.หนั่น” ปัดฝุ่นเมกะโปรเจกต์ ฟื้นรอยัลโคสต์ผุดศูนย์ประชุมภูเก็ต

เสธ.หนั่น เร่งสปีด เดิมหน้าเมกะโปรเจกต์ท่องเที่ยว ถ้าได้รับมอบหมายงานอย่างเป็นทางการหลังปีใหม่ นำร่อง โครงการรอยัลโคสต์ ขณะที่ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ระบุ มั่นใจนำร่อง 4 โครงการหลัก เปิดทางเอกชน บูมท่องเที่ยวทางน้ำทะเลอ่าวไทย เชื่อม อู่ตะเภา, สิงคโปร์ และ มาเลเซีย พร้อมผุดศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต มั่นใจได้เห็นงานเริ่มในปีงบ 53

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังรัฐบาลแถลงนโยบายในวันที่ 29-30 ธ.ค.2551 คาดว่า จะมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของรองนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ตนจะได้รับมอบหมายให้มาดูและกระทรวงการท่องเที่ยว เหมือนเดิม พร้อมทั้งกระทรวงเกษตรฯและงานด้านการเมือง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นในส่วนของงานด้านท่องเที่ยวได้เตรียมวางแผนการทำงานไว้ ว่า จะเร่งผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ได้ดำเนินการมาจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ใน 14 คลัสเตอร์ นำร่องที่โครงการ แผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย หรือ รอยัลโคสต์

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานที่ปรึกษา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยว นำเรื่องเสนอผ่านมายังกระทรวงการท่องเที่ยว เพื่อนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ซึ่งตนเป็นประธาน ได้พิจารณาเป็นลำดับต้น เพื่อจะได้ ประกาศให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ เพื่อให้เอกชนเกิดความมั่นใจ และกล้าที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว

***เปิดช่องสัญญาณวิทยุช่วยเหลือนักท่องเที่ยว***

สำหรับเรื่องเร่งด่วน ที่จะต้องดำเนินการทันที คือ การวางยุทธศาสตร์ การทำงานเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้กลับสู่ภาวะปกติ เชื่อว่า หากมีความร่วมมือกันจะทำได้ไม่ยาก เพราะขณะนี้ประเทศไทย มีรัฐบาลใหม่แล้ว สถานะทางการเมืองค่อนข้างนิ่ง ภาพของความขัดแย้งลดลง ทั้งหมด คือข้อมูลที่เราจะต้องไปโรดโชว์ เพื่อบอกกล่าวให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ หรือประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน มีแนวคิดอีกว่า ต้องการให้ตำรวจท่องเที่ยวทำงานร่วมกับตำรวจภูธร เพื่อขยายความช่วยเหลือให้แก่นักท่องเที่ยวได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเสนอให้เปิดช่องสัญญาณวิทยุ ขึ้นระหว่าง 2 หน่วยงานดังกล่าวใช้ร่วมกัน เพื่อใช้เป็นที่ให้นักท่องเที่ยวได้มารับแจ้งความเดือดร้อนและขอความช่วย เหลือ โดยตำรวจภูธรและตำรวจท่องเที่ยวจะส่งต่อข้อมูลให้แก่กันจะได้เข้าไปช่วย เหลือได้ทันที

***นำร่อง 4 โปรเจกต์หนุนท่องเที่ยว***

ทางด้าน นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า รอยัลโคสต์ จะเป็นโครงการนำร่องจากทั้งหมด 14 คลัสเตอร์ โดยจะผลักดันให้เริ่มโครงการได้ทันในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งในโครงการ รอยัลโคสต์ จะมีการพัฒนาให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวทางนำใหม่ๆ จาก 4 โครงการหลัก ได้แก่

1.การสร้างท่าเทียบเรือสำราญ (ครุยส์) ที่ จ.เพชรบุรี เพื่อเชื่อมเส้นทางเดินเรือไปยังท่าเรืออู่ตะเภา ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยกระทรวงฯจะหนุนให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนในเรื่องของการเดินเรือ

2.การพัฒนาท่าเรือ คลองวาฬ จ.ประจวบฯ ซึ่งกรมขนส่งทางน้ำ ได้โอนให้องค์การบริหารส่วนตำบอลดูแล โดยกระทรวงจะชักชวนให้เอกชนมาลงทุนพัฒนาเป็นท่าเรือสำหรับเชื่อมการเดินทาง ไปสู่ประเทศสิงคโปร์

3.โครงการพัฒนาท่าเรือยอร์ช จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีอยู่แล้ว โดยจะใช้สำหรับการเดินทางระหว่างเกาะตะรุเตาและเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย

และ 4.โครงการก่อสร้างศูนย์นานาชาติประชุม จ.ภูเก็ต โดยเบื้องต้นคาดว่า จะเปิดทางให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน และบริหารจัดการ ซึ่งเป็นโมเดลที่ต่างจากศูนย์ประชุมนาชาติ จ.เชียงใหม่ ที่รัฐเป็นผู้ลงทุน และ ให้เอกชนรับไปบริหาร อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถกำหนดเม็ดเงินลงทุนได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการลงพื้นที่ศึกษาที่คาดว่าจะเสร็จทัน มี.ค.2552 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการจัดทำงบประมาณปี 2553

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 26/12/2551