ซื้อบ้านปีนี้ระวังจ่ายแพง !! ปี 52 ตลาดเป็นของผู้ซื้อ

เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ตัดสินใจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดพรวดเดียว 1% จากเดิม 3.75% เหลือ2.75% หลังจากเกือบทั้งปีที่ผ่านมาแทบจะไม่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงเลย ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ส่อเค้าชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะกังวลปัจจัยเรื่องเงินเฟ้อ สวนทางกับเฟดที่ค่อยๆ ทยอยประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย จนเมื่อผลพวงจากซับไพรม์กระทบรุนแรง จนทำให้เลห์แมน วาณิชธนกิจขนาดใหญ่ในอเมริกาล้ม ตามมาด้วยการสั่นคลอนของเอไอจี และสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ต้องธนาคารสหรัฐต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทำให้ซับไพรม์โดมิโนครั้งนี้ กลายเป็นวิกฤตการเงินโลกโดยไม่ทันตั้งตัว แม้วิกฤตครั้งนี้จะยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยทันที แต่กำลังซื้อขนาดใหญ่จากตลาดสหรัฐอเมริกาที่หายไป ก็เป็นผลกระทบอย่างรุนแรง เช่นกันสำหรับประเทศไทย ที่ยังพึ่งพิงรายได้จากการส่งออกเป็นส่วนใหญ่

วิกฤตการเงินโลกที่ประทุขึ้นในช่วงไตรมาส 3 รวมถึงความวุ่นวายทางการเมืองในไทย ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงกับคาดการณ์ว่ากระทบต่อตัวเลข GDP ปีหน้าอย่างแน่นอน หากไม่มีการใช้นโยบายใดๆ มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่านี้ ซึ่งเมื่อปัจจัยเรื่องภาวะเงินเฟ้อเริ่มลดลง ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยตัดสินใจใช้นโยบายทางการเงิน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายทันที เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะช่วยลดภาระเรื่องต้นทุนของผู้ประกอบการ และโชคดีที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งก็ขานรับทันที ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.5% ซึ่งแน่นอนว่าเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย

วิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)(AP) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงเป็นผลดีต่อทั้งดีเวลลอปเปอร์และผู้ซื้อ ทำให้ภาระของผู้ซื้อลดลง เพราะส่วนใหญ่กว่า 80% ของผู้ซื้อบ้านต้องขอสินเชื่อจากธนาคาร และในปีที่ 2 ของการกู้ จะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวซึ่งอิงกับอัตราดอกเบี้ย MLR หรือ MRR หากดอกเบี้ยลดลง 1% จะทำให้ภาระการผ่อนชำระต่อเดือนลดลง 7-8%ทำให้กำลังซื้อสูงขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง และภาษีธุรกิจเฉพาะที่รัฐบาลยึดอายุให้อีก 1 ปี จะยิ่งเป็นผลดีต่อการซื้อบ้าน เพราะภาระค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวของ
ลูกค้าลดลงถึง 3% เป็นการช่วยเร่งให้คนที่อยากมีบ้านตัดสินใจซื้อบ้านได้ทันที อีกทั้งดีเวลลอปเปอร์ก็จัดโปรโมชั่นลดราคาบ้านให้อยู่แล้ว ถือว่าตอนนี้ตลาดกลายเป็นของผู้ซื้อ

อย่างไรก็ตาม มองว่าในปีหน้าการลดราคาบ้านก็จะยังมีให้เห็น เพราะทุกรายต้องแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงตลาด หากสถานการณ์กลับมาดีขึ้นมาก ผู้ซื้ออาจจะมั่นใจที่จะซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ราคาบ้านลดลงต่ำที่สุด“ยังไงปีหน้าอสังหาริมทรัพย์ก็เหมือนเดิม ทุกรายยังต้องแข่งกันลดราคาอยู่ กำไรที่ดีเวลลอปเปอร์ได้มาก็คืนกลับเป็นส่วนลด หรือของแถมให้ลูกค้าหมด”ในช่วงปลายปีเอพีได้ปรับลดราคาขายบ้านล็อตใหม่ลง ตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ลดลง และนำกำไรส่วนหนึ่งที่ได้นำมาจัดโปรโมชั่น Cash Back คืนให้กับลูกค้า เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ โดยเอพีมอบบัตรของขวัญมูลค่า 200,000-300,000 บาท เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน และธนาคารไทยพาณิชย์มอบบัตรของขวัญจากเซ็นทรัล สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านในแปลงที่กำหนดและโอนภายในสิ้นปีนี้

บ้านล็อตใหม่ถูกกว่าล็อตเก่า
เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงมีผลเฉพาะต่อสต็อกบ้านล็อตใหม่ เพราะทำให้ภาระต้นทุนทางการเงินของดีเวลลอปเปอร์ลดลง แต่ไม่มีผลต่อราคาบ้านที่เป็นสต็อกเก่า เนื่องจากเป็นบ้านที่สร้างจากต้นทุนเดิม เช่น ในช่วงกลางปีนี้ที่ราคาเหล็กเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว ทั้งนี้ภาวะขณะนี้ ผู้บริโภคก็ระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อมากอยู่แล้ว หากมีส่วนใดที่บริษัทสามารถลดให้ลูกค้าได้ ก็ลดให้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าที่บริษัทมั่นใจว่ามีเครดิตดี สามารถขอสินเชื่อธนาคารผ่านแน่นอน

“1% ที่ดอกเบี้ยลดลงมา ถือว่าช่วยได้เยอะ แต่สำหรับเราเป็นบริษัทฯ ที่กู้เงินไม่เยอะมาก เลยเห็นภาพไม่ชัดเท่าบริษัทอื่นที่กู้เยอะกว่า ขณะนี้บริษัทฯ ยังมีวงเงินกู้ที่เหลืออยู่เก็บไว้พอสมควร กระจายอยู่หลายธนาคาร ซึ่งก็ยังไม่เห็นว่าธนาคารจะกังวลจนไม่ยอมปล่อยเงินกู้ให้ต่อ” เกษรากล่าว

ด้านวสันต์ เคียงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) กลับเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงไม่กระทบต่อบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากบริษัทมีภาระหนี้ต่ำอยู่แล้ว มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.3 หากจะลดราคาบ้าน สาเหตุมาจากต้นทุนก่อสร้างที่ลดลงมากกว่า ซึ่งที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะใด ดีเวลลอปเปอร์ก็แข่งกันลดราคาบ้านให้ลูกค้าตลอดเวลาอยู่แล้ว

ที่มา : ผู้จัดการรายสัปดาห์ 22-12-2008