ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
22 ธันวาคม 2551

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายการปล่อยสินเชื่อใหม่แก่พนักงานธนาคารว่า จะต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาตรวจพบว่า ลูกค้าบางรายกรอกข้อมูลในการขอสินเชื่อไม่ตรงกับความเป็นจริง ขณะที่ มีแนวโน้มการปิดกิจการของโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง ทำให้ ธอส.ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ

"เราจะใช้มาตรการที่เข้มข้นในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้สินเชื่อใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 52 เป็นหนี้เสีย โดยเฉพาะพนักงานในบริษัทห้างร้านหรือในโรงงานอุตสาหกรรม หลังจากที่มีแนวโน้มชัดเจนว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง"เขากล่าว

เขากล่าวด้วยว่า จากการติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจพบว่า ในปีหน้า มีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งต้องปิดกิจการ เพราะคำสั่ง ซื้อสินค้าจากต่างประเทศลดลง ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทำให้ ธอส.ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา การพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้ให้แก่ลูกค้าแต่ละราย เราจะเชื่อถือข้อมูลของลูกค้าเป็นหลัก หากไม่ติดแบล็คลิสต์ในเครดิตบูโร เราก็พร้อมที่จะอนุมัติสินเชื่อให้ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มปัญหา จึงจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลลูกค้าทั้งหมด โดยเช็คย้อนกลับไปที่บริษัท หรือหน่วยงานต้นสังกัดว่า ข้อมูลหรือเอกสารหลักฐานในการขอสินเชื่อตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ เป็นต้น

"ที่ผ่านมา ธอส.ตรวจสอบพบว่า ลูกค้าที่มายื่นขอสินเชื่อบางราย มีพฤติกรรมในการกรอกข้อ มูลไม่ตรงกับความเป็นจริงเช่น กรอกว่า มีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาทโดยมีใบรับรองเงินเดือนจากบริษัท แต่เมื่อตรวจ สอบกลับไปพบว่า บริษัทมีขนาดเล็กเป็นห้องแถว หรือบ้าน หรือ ใบรับรองเงินเดือนก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพื่อให้รายได้ของผู้กู้มีคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไขของธนาคาร เป็นต้น"เขากล่าว
เขากล่าวว่า การสร้างข้อมูลเท็จเหล่านี้ สามารถตรวจสอบได้ง่าย แต่ที่ผ่านมา ธอส.ใช้วิธีการสุ่มตรวจกรณีที่เกิดความสงสัย แต่ในปีหน้า จะเริ่มดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจังกับลูกค้าทุกราย หากเป็นลูกค้าที่มีคุณสมบัติครบถ้วนก็สามารถอนุมัติเงินกู้ให้ได้ในทันที ซึ่งวิธีการนี้ ไม่ถือเป็นการเพิ่มเงื่อนไขหรือเพิ่มหลักเกณฑ์ในการกู้ เพราะ ธอส.ไม่ได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ใดๆ เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้นให้มากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ ในปีหน้า ธอส.ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ 73,000 ล้านบาท ลดลงจากปีนี้ ที่ปล่อยสินเชื่อได้ 85,000 ล้านบาท

ด้านนายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า เป็นห่วงคอนโดมิเนียมที่เริ่มก่อสร้างในปีที่แล้ว จะมีกำหนดก่อสร้างเสร็จในปีหน้า หรือในปี 53 จะเกิดภาวะชะงักงัน เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ผู้บริโภคที่จองซื้อไว้มีโอกาสทิ้งใบจองหรือเงินดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือกระแสเงินสดของโครงการได้ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ห่างจากแนวรถไฟฟ้า เนื่องจาก เป็นโครงการที่มีราคาถูก

เขาคาดว่า ในปีนี้ยอดสินเชื่อบ้านของตลาดรวมจะอยู่ที่ประมาณ 250,000 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มียอดสินเชื่อ 270,000 ล้านบาท เนื่องจากความไม่สงบภายในประเทศและวิกฤติเศรษฐกิจโลก แม้ว่าในขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ จะอยู่ขาลงหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% เหลือ2.75% แล้วก็ตาม และมั่นใจว่า ในเดือนม.ค.ปีหน้า กนง.ต้องติดสินเชื่อลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.50-1%
"ผู้ที่จะกู้เงินซื้อบ้านควรพิจารณาอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้ดี ระหว่างการกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยคงที่ กับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เพราะแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงเช่นนี้ การกู้เงินแบบอัตราดอกเบี้ยลอยตัวน่าถูกกว่าการกู้แบบอัตราดอกเบี้ยคงที่" เขากล่าว

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 22-12-2008

0 ความคิดเห็น: