ส่อง ตลาดอสังหาฯปี"52 กูรู 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ชี้แม้เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก แต่ยังมีหลายปัจจัยที่เปลี่ยนไปในทางดีขึ้น ทั้งอุณหภูมิการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย ทิศทางดอกเบี้ย ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง และมาตรการกระตุ้นศก.ของรัฐบาลใหม่
ปีเก่าผ่านพ้นไป ปีใหม่มาถึงแล้ว วัดอุณหภูมิตลาดบ้านและคอนโดฯในรอบปีที่ผ่านมา ถือได้ว่ามีการแข่งขันกันในระดับที่ร้อนแรงไม่แพ้ธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางปี 2551 ที่ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย ปัญหาเงินเฟ้อ และค่าครองชีพพุ่งพรวด บวกกับปัจจัยลบสถานการณ์ทางการเมือง และผลกระทบจากแฮมเบอร์เกอร์ไครซิสที่ลุกลามไปทั่วโลก กระทบชิ่ง "มู้ด" คนซื้อบ้านเข้าอย่างจัง
ย่างเข้าสู่ปีใหม่ปี 2552 แม้กูรูในวงการอสังหาฯต่างประเมินว่าการดำเนินธุรกิจไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง
"เศรษฐา ทวีสิน" เอ็มดี ค่ายแสนสิริ มองในแง่บวกว่า ตลาดอสังหาฯในปี 2552 ไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่าปีที่ผ่านมา เพราะปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนซื้อบ้านหลายอย่างเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้น ได้แก่ 1.อุณหภูมิการเมืองที่เริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่ได้รัฐบาลใหม่จากการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง 2.ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจาก 140 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 38 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อที่เคยพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ลดต่ำลง ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคสูงขึ้น 3.อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง และ 4.มาตรการช่วยเหลือประชาชน 6 ข้อ ซึ่งริเริ่มโดยรัฐบาลชุดก่อนหลายๆ มาตรการเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรง
"คุณกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คงต้องไปรีวิวว่านโยบายไหนดี ไม่ดี เพราะจากที่ได้รับฟังความเห็นของหลายๆ ฝ่าย จะเห็นว่ามีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เช่น การลดภาษีก็มีหลายทฤษฎี บางคนบอกไม่ต้องลดแต่เก็บให้เต็มที่ ก็ต้องบาลานซ์ระหว่างชอร์ตเทอมกับลองเทอม เพราะลดเฉพาะภาษีอย่างเดียวผู้ประกอบการอาจจะแฮปปี้ในระยะสั้น ทำให้มีกำไรเยอะขึ้น แต่มันไม่ยั่งยืน ทำให้รัฐขาดรายได้ จนไม่มีงบประมาณจะไปสร้างถนน ไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างเกิดขึ้น"
เอ็มดีแสนสิริเชื่อว่าผู้บริหารสูงสุดของประเทศไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจต้องกล้าที่จะ peak action เข็นนโยบายออกมาสู่ภาคปฏิบัติให้เร็วที่สุด ถึงแม้ว่าการทำงานในลักษณะนี้จะไม่เป็นที่พึงพอใจของข้าราชการบางกลุ่ม แต่ก็ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ในขณะเดียวกันต้องไม่ให้คนทำงานอยู่บนพื้นฐานของความกลัวหรือหวาดระแวง
ด้าน "อธิป พีชานนท์" นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ปัจจัยบวกในปี 2552 ถ้าดูที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะทำให้ต้นทุนดำเนินงานของผู้ประกอบการมีแนวโน้มลดลง ข้อดีคือทำให้ราคาที่อยู่อาศัยไม่ปรับราคาขึ้น
"ปีหน้าผมยังมองว่าข่าวดียังมีน้อยเมื่อเทียบกับข่าวไม่ดี หากรัฐบาลเข้ามาดูแลทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านลดลงได้อีก ก็จะเป็นข่าวดีๆ กระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคได้"
เช่นเดียวกับ "มาลี ทยานุวัฒน์" ผู้อำนวยการฝ่ายขายโครงการ บจ.แกรนด์โฮมมาร์ท ที่ฟันธงว่า ปัจจัยบวกโดยรวมในปีหน้ามาจากที่ภาครัฐเข้าไปส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและ การส่งออก ถ้าสองตัวแปรนี้กระเตื้องขึ้นจะทำให้เกิดการจ้างงานในระดับรากหญ้า ถ้าเป็นความช่วยเหลือระดับบนคือการเข้าไปช่วยเหลือตลาดทุน หากทำได้จะส่งผลด้านบวกต่อเศรษฐกิจภาพใหญ่ให้กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯลดต่ำลงมาก ทำให้มู้ดในการลงทุนไม่มี
ส่วนเซ็กเตอร์อสังหาฯ "มาลี" มองว่า มาตรการที่ให้คนซื้อบ้านนำดอกเบี้ยผ่อนชำระค่าบ้านไปหักลดหย่อนภาษี ที่รัฐบาลจะปรับเพิ่มจาก 1 แสนบาท เป็น 2 แสนบาทนั้น เป็นการเพิ่มรายได้ในกระเป๋าประชาชนเพียงส่วนเดียว ยังไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก
ขณะที่ "ทองมา วิจิตพงศ์พันธุ์" ซีอีโอและเอ็มดี ค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท มองว่า รัฐบาลใหม่ถือเป็นปัจจัยบวก ดังนั้นจากนี้ไปจะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาโดยเร็ว รวมทั้งพยายามทำให้ประชาชนในชาติเกิดความสามัคคี นอกจากนี้จะต้องออกมาตรการกระตุ้น พร้อมๆ กับเร่งแก้ไขปัญหา ทั้งหมดนี้หากสามารถทำได้ก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าตลาดอสังหาฯในปี 2552 คงไม่เลวร้ายอย่างที่หลายคนกำลังวิตกกังวล
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 29/12/2551
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
Home
»
ข่าวที่ดิน
» 3 กูรูโฟกัสปัจจัยบวกอสังหาฯปี"52 "ดอกเบี้ยลง-น้ำมันลด-รัฐบาลใหม่" ไม่เลวร้ายอย่างที่คิด!!
30 ธันวาคม 2551
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น