“LMG Marin” จากนอร์เวย์ เสนอตัวศึกษาความเป็นไปได้โครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ตอีกรอบ คาดใช้งบศึกษากว่า 100 ล้านบาท ลั่นพร้อมศึกษาทันทีหากจังหวัดภูเก็ตเห็นชอบ หลังจากหลายปีก่อนกรมโยธาฯเคยศึกษารูปแบบออกมาแล้ว โดยต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า 6หมื่นล้านบาทพัฒนา 2 เกาะ
นายณัฐศักดิ์ ส่งเสริม ตัวแทนผู้มีอำนาจเต็ม บริษัท LMG Marin จำกัด บริษัทสัญชาตินอร์เวย์ หนึ่งในบริษัทชั้นนำของยุโรปด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวร ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งบนฝั่งและในทะเลเปิด เผยว่า บริษัททราบว่าจ.ภูเก็ตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีแนวคิดในการพัฒนาอ่าวภูเก็ตและพื้นที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้เกิดความสวยงาม และเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ให้มีเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากบริเวณชายหาดของอ่าวสะพานหินได้รับผลกระทบจากการขุดแร่ในอดีต ส่งผลให้ทรายเป็นสีดำ และมีสภาพเป็นเลน แต่ที่ผ่านมายังไม่สามารถดำเนินการได้ บริษัทจึงมีความสนใจที่จะเข้ามาศึกษาข้อมูลของพื้นที่ดังกล่าว และพร้อมที่จะหาผู้มาลงทุนพัฒนาด้วย โดยเมื่อเร็วๆนี้บริษัทได้เข้าพบนายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อสอบถามรายละเอียดของโครงการดังกล่าว
สาเหตุที่บริษัทสนใจโครงการนี้ เนื่องจากบริษัทมีเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาพื้นที่ในทะเล โดยมีแท่นขุดเจาะน้ำมันอยู่ในทะเลเหนือ และพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง และสามารถที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาพื้นที่บริเวณสะพานหินได้ โดยไม่ส่งกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อม
ในเบื้องต้นบริษัทจะเริ่มด้วยการจัดทำการสำรวจ รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ข้อมูลมีความเป็นปัจจุบัน และสอดคล้องต่อสภาพความเป็นจริง เช่น ภาพรวมการใช้พื้นที่ สถานะของสภาพท้องทะเล สภาพทรายและโคลน แผนการใช้พื้นที่และสาธารณูปโภคที่เชื่อมโยง เป็นต้น
นายณัฐศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การศึกษาทั้งหมดบริษัทจะเป็นผู้ ออกงบประมาณเอง คาดว่าจะใช้ประมาณ 3-4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100 กว่าล้านบาท เมื่อศึกษาเสร็จก็จะมอบข้อมูลให้แก่จังหวัดโดยไม่มีข้อผูกพันใดๆ แต่ก็ต้องได้รับความยินยอมจากจังหวัดในการที่จะให้ทำการศึกษาก่อน เพราะมีท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องถึง 3แห่ง และพร้อมที่จะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมหากจังหวัดภูเก็ตต้องการ ให้ดำเนินการ เช่น รูปแบบของการพัฒนา ความเป็นไปได้ ผลดีผลเสียที่จะเกิดขึ้น กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งก็จะต้องว่ากันไปตามขั้นตอน
อย่างไรก็ตาม บริษัทเห็นว่าบริเวณสะพานหินสามารถพัฒนาได้ทั้งบนฝั่งและในทะเล เนื้อที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตร นอกจากจะทำเป็นสวนสาธารณะสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถที่จะพัฒนาเป็นที่ตั้งสถาบันการศึกษา แหล่งพาณิชยกรรม โรงแรมที่พัก และอื่นๆ ตามความเหมาะสม แต่ทั้งนี้ต้องให้ความสำคัญแก่ชุมชนที่มีอยู่และจะไม่กระทบต่อวิถีชีวิตดั้ง เดิม ซึ่งต้องไปลงในรายละเอียดการศึกษาอีกครั้ง
ขณะที่นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เห็นด้วยที่เอกชนสนใจที่จะเข้ามาศึกษาและลงทุนโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต แต่จะต้องหารือในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่ครอบคลุมความรับผิดชอบของ 3 หน่วยงานท้องถิ่น คือ เทศบาลนครภูเก็ต เทศบาลตำบลรัษฎาและเทศบาลตำบลวิชิต และที่สำคัญการพัฒนาดังกล่าวจะต้องไม่กระทบต่อวิถีชุมชนในบริเวณสะพานหินและ สิ่งแวดล้อม
สำหรับโครงการพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีการผลักดันให้เกิดขึ้นในทะเลบริเวณปลายแหลมสะพาน หินเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เพื่อพัฒนาพื้นที่ที่เป็นดินโคลนที่เกิดจากการขุดแร่ให้เป็นพื้นที่มีความ สวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภูเก็ต
ก่อนหน้านี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการศึกษาความเป็นไปได้ และออกแบบรายละเอียดไปแล้ว ซึ่งผลการศึกษาในขณะนั้นแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เกาะ คือเกาะ MICE และเกาะ MARINA ใช้เงินลงทุนประมาณ 65,000 ล้านบาท จนถึงขณะนี้โครงการก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆที่มีบริษัทต่างชาติหลายๆบริษัทสนใจที่จะเข้ามาลงทุนพัฒนาอ่าวภูเก็ต เป็นระยะๆ
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 ม.ค. 54
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
12 มกราคม 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น