ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
26 ตุลาคม 2553

ERA เชื่อตลาดบ้านมือสองโตต่อเนื่องปีละไม่ต่ำกว่า10% ถึงปี 2560 แจงตลาดรวมปี53 มูลค่ากว่า 100,000ล้านบาท คาดปีหน้ายังโตไม่ต่ำกว่า10% หรือมีมูลค่าการขายกว่า 110,000 ล้านบาท คาดปี60 ตลาดโตเต็มที่มูลค่าขายรวมกว่า300,000-4000,000ล้านบาท เผยปี53 ตลาดรวมโต10-12% แม้เศรฐกิจ-การเมืองป่วน ย้ำตลาดบ้านมือสองโตไม่ขึ้นกับปัจจัยการเมือง-เศราฐกิจเป็นหลักแต่ขึ้นกับ การขยายตัวของโบรกเกอร์และเอเจนซี่ ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงตลาดมือสองมากขึ้น มั่นใจรัฐไม่ปรับดอกเบี้ย เหตุค่าบาทแข็ง กลุ่มเก็งกำไรเล็งซื้อทำกำไร

นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ERA กล่าวว่าตลาดรวมบ้านมือสองในปีนี้ ถือว่ามีอัตราการเติยบโตที่ดีมากอีกปีหนึ่ง โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 10-12% จากปีที่แล้ว แม้ว่าในช่วงไตรมาสที่2 จะได้รับปัจจัยลบจากปัญหาการเมืองทำให้เกิดการชะลอ การตัดสินใจซื้อของกลุ่มผู้บริโภคลงไปเล็กน้อย แต่หลังจากปัญหาต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงตลาดโดยรวมก็กลับมาขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดบ้านมือสองราคาแพง ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจว่ามีอัตราการขายที่ดีมาก

“บ้านเดี่ยวระดับราคา 5ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ราคา 3ล้านบาทขึ้นไป และคอนโดมิเนียมราคา 20-27 ล้านบาท ขึ้นไปมีการระบายออกที่ดีมากในปีนี้ นับเป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าทำไมอัตราการระบายของสินค้าระดับบน ถึงมีการระบายออกที่ดี ซึ่งเป้นเรื่องที่หาคำตอบไม่ได้ ทั้งนี้ในปี53นี้คาดว่าตลาดรวมจะมีมูลค่ายอดขายโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท”

ส่วนในปีหน้านั้นคาดว่าแนวโน้มตลาดจะยังสดใส โดยเฉพาะในช่วง 6เดือนแรกของปี เนื่องจากมีดีมานด์ ที่อั้นมาจากปีนี้จะไปเร่งตัดสินใจซื้อบ้านมือสองมากขึ้น ในปีหน้า เนื่องจากลุ่มผู้บริโภค กังวลว่าหากไม่เร่งตัดสินใจซื้อในช่วงต้นปี จะต้องแบกรับกับอัตราดอกเบี้ยใหม่ ซึ่งจะปรับตัวขึ้นในปีหน้า ส่วนในช่วง6เดือนหลังของปีนั้น ต้องจับตาดูว่าจะมีปัจจัยลบทั้งในเรื่องของ ปัญหาการเมืองและการผันผวนของเศรษฐกิจโลกเข้ามากระทบหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีมีปัจจัยลบเข้ามากระทบในปีหน้า เชื่อว่าจะเป็นปีทองของบ้านมือสองอีกปีหนึ่งแน่นอน

ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ที่หลายคนมองว่าจะส่งผลดีต่อ ตลาดบ้านมือสองนั้นถือเป็นเรื่องความเชื่อเดิมๆ เพราะในความจริงแล้ว การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนั้นจะส่งผลกระทบต่อกำลัง ซื้อของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือสองอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในปัจจุบันตลาดบ้านมือสอง และตลาดบ้านใหม่นั้นถือได้ว่าแยกกันไม่ออก แต่อาจจะเรียกได้ว่ากลืนกันเป็นเนื้อเดียวแล้ว สังเกตุได้จากตัวเลขข้อมูลความต้อการที่อยู่อาศัย ที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีการจัดเก็บมาในแต่ละปี จะพบว่าแนวโน้มความต้องบ้านที่อยู่อาศัยของกลุ่ม ลูกค้าทั้ง2ตลาดนั้นมีสัดส่วนเท่ากันคือ 50-50% และทิศทางการขึ้นและลงในทิศทางเดียวกันมาโดยตลอด

นายวรเดช กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ย ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และ บ้านมือสองนั้น เชื่อว่าในช่วงปลายปีไปถึงกลางปีหน้า รับฐบาลจะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันโดยไม่มีการปรับขึ้น เนื่องจากจะส่งผลต่อการแข็งค่าของเงินบาท จากการเก็งกำไรของกลุ่มนักเก็งกำไรเงินตราต่างชาติ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า จะไม่มีปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยเข้ามากระทบ การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคแน่นอน

สำหรับอัตราการเติบโตของตลาดรวมบ้านมือสองในบ้านเรานั้น คาดว่าจะมีการเติบโตเต็มที่หรือถึงจุดอิ่มตัวในช่วงปี 2560 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 300,000-400,000 ล้านบาท และหลังจากที่มีการเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว ตลาดรวมจะมีอัตราการขยายตัวต่อปี ไม่เกิน3-4% ต่อปี ทั้งนี้การเติบโตของตลาดบ้านมือสองในปัจจุบันนั้น ไม่ได้มีปัจจัยหลักมาจาก การเมืองหรือเศรฐกิจ แต่เป็นการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากการขายตัวของกลุ่มนักขาย หรือการขยายตัวของโบรกเกอร์และเอเจนซี่ ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละปี ทำให้ตลาดบ้านมือสอง เริ่มเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากกว่าในอดีตที่ผ่านๆ มา

ส่วนกรณีเรื่องปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ่นในขณะนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระบทต่อตลาดบ้านมือสอง เนื่องจากตลาดหลักหรือสินค้าหลักๆ ของตลาดบ้านมือสองนั้นส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพ และจังหวัดนนทบุรี และในอนาคตจะขยายตัวออกไปในพื้นจังหวัดที่ปทุมธานี และสมุทรปราการ ซึ่งในจังหวัดดังกล่าว ไม่น่าจะไม่ได้ผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 24 ต.ค. 53

0 ความคิดเห็น: