ที่ดินภูเก็ตเก็บค่าธรมเนียมได้กว่า 1,300 ล้านบาท - บ้านจัดสรรแนวโน้มพุ่งขึ้นยื่นขอแล้ว 5 โครงการ

จังหวัดภูเก็ตจัดเก็บรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดินปีงบประมาณ 2553 ได้กว่า 1,300 ล้านบาท ขณะที่บ้านจัดสรรเกิดขึ้นกว่า 1,000 ยูนิต เผยแนวโน้มปี 54 บ้านจัดสรรยังเกิดขึ้นตลอด จากความต้องการที่อยู่อาศัยราคาระดับกลางยังไม่ลด เพียงต้นปีอนุญาตแล้ว 5 โครงการ

นายไพทูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงการจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียม การทำนิติกรรมที่ดินในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตประจำปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมา ระหว่างเดือนตุลาคม 2552-กันยายน 2553 นี้ ว่า ในปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมา สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตสามารถจัดเก็บรายได้ได้ทั้งสิ้น 1,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2552 ประมาณ 430 ล้านบาท โดยในปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา สามารถจัดเก็บได้ทั้งสิ้น 871 ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากในพื้นที่ภูเก็ต มีการทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินเกิดขึ้นโดยตลอด โดยในปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมา มีผู้มารับบริการจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมทุกประเภทถึง 30,812 ราย และจากการยกเลิกมาตรการค่าธรรมเนียม การทำนิติกรรมที่ดินของรัฐบาลร้อยละ .01 เป็นร้อยละ 2 ตามปกติแล้ว จึงทำให้การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ของสำนักงานที่ดินภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น

นายไพทูรย์ ยังกล่าวถึงการขออนุญาตจัดสรรที่ดิน ว่า ในปีงบประมาณ 2553 ที่ผ่านมา มีเอกชนที่เข้ามาลงทุนโครงการบ้านจัดสรรในภูเก็ต ได้รับการอนุญาตจัดสรร ที่ดินทั้งสิ้น 12 ราย มีจำนวน 1,000 แปลง และขอจดทะเบียนอาคารชุด 7 ราย จำนวน 800 ห้องชุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลงทุนบ้านจัดสรรในภูเก็ต มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยของประชาชนที่เข้ามาทำงาน และประกอบอาชีพในภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มการขออนุญาตจัดสรรที่ดินในภูเก็ตจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะบ้านจัดสรรในราคาระดับกลางที่เจาะตลาดคนไทย ยังสามารถทำตลาดได้ดีอยู่ จากที่ความต้องการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมีอยู่ตลอด ซึ่งจะเห็นได้จากการยื่นขออนุญาตจัดสรรที่ดินเกิดขึ้นตลอด โดยตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2554 เป็นต้นมา มีเอกชนยื่นขออนุญาตจัดสรรที่ดิน และได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจัดสรร ที่ดินจังหวัดภูเก็ตในเดือนตุลาคม 2553 นี้ไปแล้ว ทั้งหมด 5 โครงการ ประกอบด้วย

โครงการบ้านนัฐกมล-รัษฎา 2 ของบริษัท นัฐกมล พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นบ้านแถวชั้นเดียว จำนวน 159 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 1.1-2.1 ล้านบาท ,

โครงการบ้านจอมทองถลาง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสุนทร เนื่อที่ 3 งาน 89.73 ตรว. เป็นทาวน์เฮ้าส์ 16 แปลง,

โครงการ 88 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ของบริษัท แอล เอช เมืองใหม่ ที่บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวันออก บนเนื้อที่ 9 ไร่ มีทั้งหมด 63 แปลง แบ่งเป็น อาคารพาณิชย์ 15 แปลง ราคาอยู่ที่ 5-6 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 48 แปลง ราคา 5.3-8 ล้านบาท

โครงการสามกองพาร์ค ของบริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ ถ.ประชาสามัคคี ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต มีทั้งหมด 80 แปลง แบ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 19 แปลง ราคา 2.9 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 12 แปลง ราคา 3.4 ล้านบาท บ้านแฝด 2 ชั้น 48 แปลง ราคา 2.4 ล้านบาท และที่ดินเปล่า 1 แปลง

และโครงการภูเก็ตธานี 2 (สารพัดช่าง) ถ.ศักดิเดช ซอย 1 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต มีทั้งหมด 96 แปลง เป็นอาคารพาณิชย์ 29 แปลง บ้านแถว 2 ชั้น 18 แปลง บ้านเดี่ยวชั้นเดียว 6 แปลง บ้านแฝดชั้นเดียว 30 แปลง และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 13 แปลง

เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนอาคารชุดหรือคอนโดมิเนียมในภูเก็ต ว่า มีการชะลอตัวในกลุ่มของการลงทุนเพื่อขายให้กับลูกค้าคนไทย เนื่องจากที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียม ที่เจาะตลาดคนไทยเกิดขึ้นหลายโครงการมาก และคนไทยส่วนใหญ่จะนิยมซื้อบ้านมากกว่าคอนโดมิเนียม แต่สำหรับคอนโดมิเนียม ที่เจาะกลุ่มชาวต่างชาตินั้นยังมีการลงทุนอยู่ เพราะคนต่างชาติสามารถที่จะซื้อคอนโดฯและมีสิทธิในการครอบครอง

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 27 ต.ค. 53