ชาวชุมชนบ้านมอญยื่นหนังสือนายกฯ ค้านขุดอุโมงค์ป่าตอง

ชาวชุมชนบ้านมอญ ป่าตอง ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ค้านขุดอุโมงค์ป่าตอง หวั่นกระทบวิถีชีวิต ขณะที่นายกเล็กป่าตองยืนยันอุโมงค์ป่าตองจำเป็น แต่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (29 ก.ย.) ชาวชุมชนบ้านมอญ ในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านโครงการขุดเจาะอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง โดยมี ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ ที่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ เนื่องจากทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาความเป็นไปได้ และความเหมาะสมโครงการขุดอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง ซึ่งทางบริษัทที่ปรึกษาได้สรุปว่าทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดคือทางเลือกที่ 2 ซึ่งทางเข้า-ออกอุโมงค์ฝั่งป่าตองจะอยู่ตรงกลางชุมชนบ้านมอญพอดี ทำให้ชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับทางเลือกดังกล่าว เพราะเห็นว่าชาวบ้านจะต้องย้ายออกจากชุมชนไปหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งการหาที่ดินเพื่ออยู่อาศัยในป่าตองนั้นราคาสูงมาก ประกอบกับที่บริเวณชุมชนบ้านมอญ และยังมีสถานที่สำคัญคือราชปาทานนุสรณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการปัจจุบัน ที่ชาวป่าตองเคารพนับถือ

นายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวถึงเหตุผลที่จะต้องมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา จัดทำโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง หรือที่เรียกกันว่าอุโมงค์ป่าตอง ว่า ที่ผ่านมา ได้มีความพยายามในการที่จะหาทางเพิ่มเส้นทางการจราจรเข้าออกพื้นที่ป่าตองมา อย่างต่อเนื่อง และการสร้างอุโมงค์ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ด้วยปัจจุบันเส้นทางหลักในการเข้าออกป่าตองมีเพียงทางเดียว คือ ถนนสาย 4209 ซึ่งเป็นถนนที่มีความลาดชันและคดเคี้ยว จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งเฉลี่ยปีละประมาณ 400-500 ครั้ง ในจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นดังกล่าวก็ได้ส่งผลให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและ บาดเจ็บจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเกิดภาพลักาณ์ที่ไม่ดีต่อการท่องเที่ยวด้วย

ทางเทศบาลจึงได้มีแนวคิดในการแก้ปัญหาดังกล่าว จึงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ทำการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ สังคม วิศวกรรม และผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่เชื่อมต่อกะทู้-ป่าตอง โดยใช้งบประมาณ 39 ล้านบาท และทุกอย่างก็ดำเนินการตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด

เบื้องต้นได้มีการเสนอทางเลือกของการจัดทำอุโมงค์และทางต่างระดับ จำนวน 4 ทางเลือก โดยบริษัทที่ปรึกษาได้จัดรับฟังความเห็นและเสนอแนวคิดว่าทางเลือกที่เหมาะสม คือมีจุดเริ่มต้นที่บริเวณสนามโกคาร์ดฝั่งกะทู้ และทางออกของอุโมงค์อยู่ที่บริเวณบ้านมอญ ฝั่งป่าตอง ส่งผลให้มีประชาชนบางส่วนคัดค้าน เนื่องจากเกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นทางเลือกในการก่อสร้างแล้ว แต่ความจริงยังไม่ใช่ เพราะผลการศึกษาสุดท้ายยังไม่สรุป ซึ่งอาจจะมีการเบี่ยงไปทางอื่นได้ตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือให้เกิดผลกระทบกับประชาชนหรือวิถีชีวิตของ ประชาชนที่จะมีถนนตัดผ่านน้อยที่สุด ส่วนเรื่องของอัตราค่าเวนคืนปัจจุบันกฎหมายได้ให้สิทธิสามารถที่จะซื้อได้ใน อัตราราคาท้องตลาด ตามความเหมาะสม

นายเปี่ยน ยังกล่าวอีกว่า เมื่อผลการศึกษาออกมาแล้วนั้นก่อนที่จะมีการก่อสร้างจริงๆ ก็จะต้องมีการรับฟังความเห็นจากคนในพื้นที่อีก ซึ่งรูปแบบการลงทุนก็อาจจะเป็นลักษณะของเอกชนลงทุนทั้งหมด หรือเอกชนลงทุนกับภาครัฐ หรือภาครัฐจะเป็นผู้ลงทุนเอง ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคตที่จะต้องมีการศึกษากันต่อหลังจากที่มีผลการศึกษาออก มาแล้ว

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 29 ก.ย. 53