โฉนดติจิตอลส่อลากยาว10ปี

ศูนย์ข้อมูลที่ดินโฉนดติจิตอล-ระบบให้บริการประชาชนออนไลน์ทั่วประเทศส่อ สะดุดยาว คาดใช้เวลา ไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถึงครบกว่า30ล้านแปลง หลังขอทั้งงบประมาณ-งบไทยเข้มแข็ง ไป 4,500 ล้านบาท ไม่ได้แม้แต่บาทเดียว ทางออกต้องใช้งบเหลือจ่ายในปีงบประมาณ 53 วงเงิน 20ล้านบาท ประคองไปก่อน

นายอนุวัติ เมธีวิบูลวุฒิ อธิบดีกรมที่ดินเปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงแผนดำเนินการจัดทำศูนย์ข้อมูลที่ดิน ด้วยการแปลงข้อมูลที่ดินใน รูปแบบโฉนดดิจิตอล กว่า 32 ล้านแปลง โดยมีข้อมูลที่ดินแต่ละแปลงอย่างละเอียด และ ระบบสารสนเทศที่ดิน ซึ่งจะเป็นโครงสร้างการให้บริการประชาชนรูปแบบออนไลน์ทั่วประเทศ ว่าน่าจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่า จะ ล่าช้าออกไปไม่ต่ำกว่า 10 ปี หลังจาก ตั้งเป้า ให้แล้วเสร็จทันประกาศใช้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในอีกไม่เกิน2-3ปีข้างหน้า

"ทั้งนี้เนื่องจาก กรมยังไม่ได้รับงบไทยเข้มแข็ง แม้แต่บาทเดียวจากที่เสนอขอไปวงเงิน 4,500ล้านบาท และที่ผ่านมา ได้ลดงบประมาณลงเหลือ 3,500ล้านบาท เนื่องจากต้องการช่วยรัฐบาลประหยัดงบค่าก่อสร้าง1,000ล้านบาท ด้วยการใช้สถานที่กรมที่ดินเดิมที่คลองหลอดเป็นที่ตั้งศูนย์ข้อมูลที่ดิน ใหญ่ขณะเดียวกัน งบประมาณที่เสนอขอไป ก็ได้รับจัดสรรเพียงเล็กน้อยมาก 100-200ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2554

แต่กรมไม่สามารถรอได้ จะต้องเร่งมือเพื่อให้ระบบแล้วเสร็จโดยเร็ว ในปี 2553 โดยใช้งบเหลือจ่ายวงเงิน 20ล้านบาท ดำเนินการไปก่อนในเขตกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง และหากไม่ได้รับงบไทยเข้มแข็งตามที่เสนอไปในวงเงินดังกล่าวและ ต้องใช้แต่เงินงบประมาณ เพียงเล็กน้อยประเมินว่า โครงการดังกล่าว สามารถแล้วเสร็จทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 10ปี"

อธิบดีกรมที่ดินกล่าวอีกว่าที่ผ่านมา ได้มี ประเทศแคนาดา เสนอปล่อยเงินกู้ และ เสนอกู้เงินทั้งในประเทศและต่างประเทศแต่ มองว่ารัฐบาลจะไม่อนุมัติ ทางออก กรมจะใช้วิธี เก็บค่าธรรมเนียม2% จากการจัดเก็บรายได้ของท้องถิ่นอาทิ กทม. เพื่อนำเงินดังกล่าวมาหมุนเวียน พัฒนาระบบต่อไป

"ทั้งนี้ระบบดังกล่าวจะทำให้การบริหารจัดการที่ดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะรัฐมีข้อมูลการใช้ที่ดินครบถ้วนสมบูรณ์ การจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่ จะไม่ตกหล่นและแก้ปัญหาการถือครองที่ดินที่มีปัญหาทับซ้อนกันกับแปลงที่ดิน รายอื่น หรือ ออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ โดยศูนย์ข้อมูลจะจัดเก็บเป็นโฉนดติจิตอลทั้งหมด ระบุประวัติที่มาที่ไปของที่ดินอย่างละเอียด โดยสามารถเรียกตรวจสอบได้ทางระบบออนไลน์ เพียงใส่เลขโฉนดหรือ ชื่อเจ้าของที่ดินเข้าไปเท่านั้น"

ส่วนโฉนดที่ซ้ำซ้อนทั่วประเทศกว่า 50,000แปลง ไม่มีผลกระทบอะไร เพียงแต่เป็นลักษณะลงเลขผิดเท่านั้นซึ่งอยู่ระหว่างเรียงเลขโฉนดใหม่ และยังสามารถซื้อ-ขายเปลี่ยนมือได้ปกติ ซึ่งที่ผ่านมาเกิดจากการ ขยายเขตในกทม.เพิ่มจาก30กว่าเขตเป็น 50เขตและอำเภอจาก600อำเภอเป็น 800อำเภอ เป็นต้น

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ 19-21 ส.ค. 53