กมธ.กิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญฯ จับพิรุธหน่วยงานรัฐเตรียมลงพื้นที่บริเวณเกาะระ จ.พังงา หวังเจาะหาข้อเท็จจริงหลังชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐร้องเรียน เรื่องการออกสิทธิส.ท.ก.และเอกสารสิทธิ
ทั้งชงเรื่องถึง"สุวิทย์ คุณกิตติ" สั่งชะลอการกระทำใดๆระหว่างรอผลศึกษาที่จะเสร็จสิ้นเม.ย.นี้ หวั่นเอื้อกลุ่มทุนเป็นนอมินีจ้องฮุบหากเร่งรีบให้สิทธิ ไป
นายเฉลิมชาติ การุญ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าการดำเนินงานของทางคณะกรรมาธิการ ภายหลังจากที่มีแกนนำชาวบ้านในพื้นที่เกาะระจำนวน 30 คนมาร้องเรียน เกี่ยวกับเรื่องความไม่ชอบมาพากลในเรื่องของการออก สิทธิที่ดินทำกิน(ส.ท.ก.) 139 แปลง ของกรมป่าไม้ อีกทั้งนายลือชัย ประทีป ณ ถลาง ผู้ชำนาญการโครงการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่งเกาะระร้องเรียน เข้ามาใน 2 กรณีคือ 1.การดำเนินการเพื่อออกส.ท.ก.และ 2.การดำเนินการเพื่อออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก และส.ค.1 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเกาะระก่อนพ.ศ. 2551 ประมาณ 17-21 แปลงซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงและกฎหมายที่ เกี่ยวข้อง
นอมินีจ้องฮุบ
โดยข้อมูลที่แกนนำชาวบ้านนำมาเสนอ ระบุว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ไม่ได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดของเกาะระ ซึ่งมีพื้นที่รวม 1.2 หมื่นไร่ในการจัดทำโครงการสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่ง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว นักวิชาการแนะว่าควรจะใช้พื้นที่ทั้งหมดในการจัดทำ เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อต้องการผลักดันให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย หากไม่มีการนำพื้นที่ทั้งหมดมาทำโครงการ พื้นที่ที่เหลือร่วม 5 พันไร่ก็จะสามารถออกเอกสารสิทธิในการครอบครองได้ทันที ซึ่งผู้ที่ครอบครองก็คือชาวบ้านในพื้นที่ แต่จากข้อมูลที่แกนนำชาวบ้านนำมาชี้แจง ระบุว่าผู้ที่มารับครองเอกสารสิทธิส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนอมินีไม่ใช่ชาวบ้าน
ชะลอออกเอกสารสิทธิ
จากข้อมูลดังกล่าว ทางคณะกรรมาธิการหลังจากมีการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลเบื้องต้นแล้วจึงมีมติ ให้ชะลอดำเนินการต่างๆไว้ชั่วคราว พร้อมทั้งได้ทำหนังสือถึง นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อชะลอการออกเอกสารสิทธิ เช่นกัน โดยให้รอผลการศึกษาทางวิชาการ รายงานการศึกษาออกแบบวางผังแม่บทสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่งเกาะระ ของศูนย์บริการวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือนเมษายน 2553 เพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ไขปัญหาพื้นที่เกาะระ ซึ่งทางรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรฯได้มีหนังสือตอบรับเห็นด้วย กับข้อเรียกร้องดังกล่าว ด้วยการส่งการให้ชะลอการออกเอกสารสิทธิ แต่จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ พบว่ายังมีการออกเอกสารสิทธิอย่างต่อเนื่อง
จัดทีมลุยพิสูจน์
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า เกาะระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นพื้นที่ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง ทำให้เป็นที่หมายตาของกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งเป้าหมายหลักที่ทางคณะรัฐมนตรีมีมติให้เกาะระ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่ง ก็เพราะทางคณะกรรมาธิการก็ได้เตรียมลงพื้นที่เพื่อสอบหาความจริงในช่วงเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านในพื้นที่เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้ยกเลิกการเดินทาง โดยข้อมูลที่แกนนำชาวบ้านนำมาเสนอ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เกาะระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นพื้นที่ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์
ล่าสุดทางคณะกรรมาธิการได้ปรึกษาหารือร่วมกันแล้วว่าจะนำทีมผู้สื่อข่าว และผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 10 ชีวิตลงพื้นที่สำรวจเการะในปลายเดือนมีนาคม 2553
ด้านนายกนก เหวียนระวี ที่ปรึกษาอดีตผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์และอาจารย์พิเศษภาควิชา ภูมิสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงการจัดตั้งโครงการสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชายฝั่ง บริเวณเกาะระ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงานี้ ทางองค์การสวนพฤกษศาสตร์ฯได้รับมติจากคณะรัฐมนตรีสมัยนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อจัดตั้งโครงการสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเลและชาย ฝั่ง บริเวณเกาะระ - เกาะพระทอง เพื่อศึกษาค้นคว้าสิ่งแวดล้อม เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางชีวภาพ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอย่างมากมีทั้งสัตว์ป่าสัตว์ น้ำจนถึงพันธุ์พืชหายาก และในอนาคตตั้งเป้าหมายที่จะถวายแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราช กุมารี ที่ผ่านมาได้มีการว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาพื้นที่เพื่อทำแผนแม่บท มาตั้งแต่ปี 2552 คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 เมษายน นี้
เผยราคาที่ดินไร่ละ3ล้าน
ช่วงที่ผ่านมาการทำงานได้มีปัญหาเกิดขึ้นจากหน่วยงานรัฐ เมื่อทางกรมป่าไม้ จะมีการประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติโดยมีการแบ่งพื้นที่ส่วนของอุทยานประมาณ 6,000 ไร่ และคั่นด้วยพื้นที่ส.ท.ก.ประมาณ 5,000 ไร่ ขณะที่การตรวจสอบพื้นที่ประมาณ 1,400 ไร่ ตามผังที่เตรียมประกาศนั้น จะพบว่าพื้นที่ส.ท.ก.ส่วนนี้จะมีความสวยงามอยู่ริมชายหาดทรายสีทองและเป็น พื้นที่ที่ยังบริสุทธิ์ หากเปรียบเทียบราคาประเมินกับเกาะยาวนักประเมินราคาที่ดินได้ประเมินให้ราคา ไร่ละ 3 ล้านบาท และหากจะมีการนำที่ดินส่วนนี้ไปแสวงหาประโยชน์คาดว่าความเสียหายของรัฐอาจจะ มีประมาณไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาท
ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่จะมีครอบครัวที่ทำกินอยู่บนเกาะประมาณ 19 -20 ครัวเรือนเท่านั้น หรือคิดเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินเดิมกับพื้นที่ที่มีการบุกรุกเดิมมี ประมาณ 500 ไร่เท่านั้น และหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้ผู้ที่มีสิทธิทำกิน ได้มีข้อระบุไว้ว่าไม่ใช่พื้นที่ที่มีสภาพควรรักษาไว้ ไม่เป็นบริเวณที่มีทิวทัศน์สวยงามอันควรรักษาไว้ อีกทั้งหากประกาศพื้นที่ตามแผนนี้จะทำให้การข้ามฝั่งของสัตว์ขาดช่วงไป ระบบนิเวศจะถูกทำลายลง จึงไม่เห็นด้วยกับกรมป่าไม้
"หากมีการวางรูปแบบผังแม่บทครบทั้งเกาะและมีการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าแล้ว เกาะนี้จะมีการสร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาลไม่ว่าจะเป็นการสร้างที่พัก อย่างดี เพื่อรองรับชาวต่างชาติที่ต้องการมาท่องเที่ยวที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ของ แหล่งธรรมชาติจริงๆ การต่อยอดผลงานจากนักวิจัยต่างชาติที่จะเข้ามาศึกษาธรรมชาติที่นี่ เชื่อว่าหากสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้เกิดขึ้นได้จะมีประโยชน์อย่างแท้จริงกับ ประเทศ จึงไม่ควรที่จะให้มีการนำพื้นที่ไปใช้อย่างไม่ถูกต้องและได้ประโยชน์ไปเฉพาะ คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น" นายกนกกล่าว
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ : 25-27 มี.ค. 53
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
30 มีนาคม 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น