ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
4 ตุลาคม 2552

การลงทุนอสังหาฯ สัญญาณบวก โบรกเกอร์-ผู้ประกอบการ-ผู้ซื้อชี้ตลาดเริ่มคึกคัก ชี้แรงหนุนสำคัญดอกเบี้ยต่ำ ดูดเงินเข้าภาคอสังหาฯ มากขึ้น

วานนี้ (2 ต.ค.) ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 21 นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับสามสมาคมด้านอสังหาฯ จัดเสวนาพิเศษเรื่อง "อสังหาฯ 52 ปีทองนักลงทุน" โดยเชิญวิทยากรจากผู้ประกอบการ ตัวแทนขาย และผู้ซื้ออสังหาฯ มาขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองภาพรวมตลาดอสังหาฯ โดยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าบรรยากาศโดยรวมดีขึ้น

นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกและปัญหาการเมืองในประเทศ ทำให้ชาวต่างชาติที่เข้ามาซื้ออสังหาฯ ในไทย ที่ผ่านมาหดหายไปจากตลาดพอสมควร จากเดิมที่มีสัดส่วนสูงถึง 30% เหลือ 5-10% ส่วนตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวที่ตลาดหลักอิงกลุ่มลูกค้าจากต่างชาติ มียอดขายลดลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา อสังหาริมทรัพย์ไทยเริ่มฟื้นตัว ต่างชาติเริ่มเข้ามาซื้อ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาอสังหาฯ เมืองไทยยังต่ำกว่าต่างชาติ เช่น ตลาดสิงคโปร์ โดยถือว่าปรับตัวดีขึ้นค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่ตลาดทรุดตัว ช่วงวิกฤติราคาลดลงมาอยู่ที่ 5 แสนบาท/ตร.ม. ขณะที่ปัจจุบันราคาขายขยับขึ้น 30% ใกล้เคียงกับภาวะปกติช่วงก่อนหน้า ซึ่งเคยอยู่ที่ 7-8 แสนบาท/ตร.ม.

นายกิติศักดิ์ กล่าวว่า ความสำเร็จในการขายคอนโดมิเนียม ทำเลยังเป็นประเด็นหลักๆ ในการตัดสินใจของผู้บริโภค และราคาต้องสมเหตุสมผล ทั้งนี้ การที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือการซื้อขายที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม พบว่ายังมีความต้องการซื้อที่แท้จริงอยู่ในตลาด ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเสริมโอกาสในการฟื้นตัวกลับมาได้ และยังเชื่อมั่นว่าอสังหาริมทรัพย์ไทย มีโอกาสทั้งการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน

ดอกเบี้ยต่ำทำเงินไหลเข้าอสังหาฯ
ด้าน นายธงชัย บุศราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า หากเทียบภาวะการซื้อขายในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมากับช่วงต้นปี ตลาดมีแนวโน้มดีขึ้น ทั้งเรื่องการซื้อขาย และการเปิดตัวโครงการ ของบริษัทอสังหาฯ และมองว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว นักลงทุนทั้งรายเล็ก รายใหญ่ มองว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการกลับมาลงทุนอีกครั้งหนึ่ง

“ดอกเบี้ยเงินกู้ยังสูง แต่ดอกเบี้ยเงิน ฝากได้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำไม่คุ้มกับเงินเฟ้อ ทำให้คนที่มีเงินออมหรือเงินเย็น หาทางนำเงินที่มีอยู่มาลงทุน ที่มีผลตอบแทนมากที่สุด” นายธงชัย กล่าว และว่าปัจจัยดังกล่าวทำให้มีเม็ดเงินส่วนหนึ่งไหลเข้ามาสู่ภาคอสังหาฯ ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อขายต่อ หรือปล่อยเช่า

นายธงชัย ยกตัวอย่างจากโนเบิล ที่เพิ่งเปิดให้จองโครงการใหม่เมื่อไม่นานนี้ “โนเบิล รีไฟน์” สุขุมวิท 26 จำนวน 243 ยูนิต แต่มีผู้ให้ความสนใจจองเข้ามาเกือบ 2,000 คน มากกว่าจำนวนยูนิตหลายเท่า จึงสามารถขายหมดภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่กลับมา

เขายังแสดงความกังวลว่า ด้วยหลายปัจจัยลบที่อาจเกิดขึ้นได้อีก ประกอบกับการฟื้นตัวของตลาดที่กลับมาเร็วมาก ดังนั้น การที่ตลาดพลิกกลับมาเร็วเกินไป จะทำให้เกิดแรงซื้อของกลุ่มคนที่เร่งการตัดสินใจ แล้วเข้ามาซื้อขายออกทำกำไรในช่วงสั้นๆ อาจจะกลายเป็นปัญหาขึ้นในภายหลัง โดยเฉพาะคนที่หวังเก็งกำไร แต่ไม่มีความสามารถในการรับโอน หากถึงเวลาต้องโอนกู้แบงก์ไม่ผ่าน รับโอนไม่ได้ จะกลายเป็นปัญหาต่อเจ้าของโครงการนั้นๆ ได้

เหตุผลดังกล่าว ทั้งนักลงทุน ผู้ประกอบการก็ต้องมีความระมัดระวัง ควรตั้งเกณฑ์ให้มีการวางเงินจอง เงินดาวน์ในอัตราที่สูงกว่า 10% ไว้จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยคัดกรองผู้ซื้อได้ เพราะหากโครงการปล่อยให้ลูกค้าวางเงินจอง เงินดาวน์เพียง 5-10% ต้นทุนในการเข้ามาจองเพียงหวังทำกำไรต่ำมาก ทำให้นักเก็งกำไรมองว่า คุ้มหากทำกำไรได้เท่าตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อโครงการ

เตือนลงทุนอสังหาฯ อย่าโลภ
ด้าน นางสาวกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ รองประธานกรรมการ บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด ในฐานะผู้ลงทุนรายย่อย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนได้ตัดสินใจลงทุนซื้อห้องชุดในคอนโดมิเนียมหลายโครงการ ด้วยเงินเก็บที่มีซึ่งแบ่งไว้สำหรับการลงทุน หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็ไม่เดือดร้อน เพราะทรัพย์หรืออสังหาฯ ที่ซื้อไว้ก็สามารถถือเก็บไว้ รอช่วงที่ตลาดฟื้นตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับนักลงทุนรายย่อย

“ควรมีการจัดพอร์ตการใช้จ่ายเงิน การลงทุนให้ดี ผู้จะลงทุนควรมีเงินเย็นพร้อมลงทุนจริงๆ มากกว่านำเงินที่มี มาลงทุนเพื่อหวังกำไรช่วงสั้นๆ ที่สำคัญคือลงทุนอสังหาฯ อย่าโลภ” นางสาวกนกรัตน์ กล่าว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 03-10-52

0 ความคิดเห็น: