ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
16 กันยายน 2552

"อภิสิทธิ์" สั่งลุย อัดเม็ดเงิน ตั้งธนาคารที่ดิน -โฉนดชุมชน ในรูปองค์กร /สหกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นที่สาธารณประโยชน์ ป่าไม้ ส.ป.ก. ธนารักษ์ แย้ม ไฟเขียวจำนองแบงก์ได้ หวังดึงเข้าระบบแก้ปัญหาที่ดินทำกินทั่วประเทศ หรือ ขายเปลี่ยนมือให้นายทุน ชี้ จะเหมือนกับบ้านมั่นคง พร้อมเดินหน้า จัดเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง ขจัดความเลื่อมล้ำในสังคม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้ ได้แก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนทั่วประเทศ ให้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและเพื่อไม่ให้มีการขยายวงบุกรุกที่ดินของรัฐ เพิ่มขึ้น โดยมีแนวคิด เร่งรัด จัดตั้งกองทุนของธนาคารที่ดิน และเชื่อมโยงการแก้ปัญหาที่ดิน ในรูปแบบของโฉนดชุมชน บนที่ดินของรัฐ ที่ประชาชนบุกรุก เข้าทำประโยชน์ไม่ว่าจะเป็น ที่ดินของกรมธนารักษ์ ที่ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ที่ดินกรมป่าไม้ ที่สาธารณประโยชน์ ซึ่งจะต่อยอดจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

" ทั้งนี้โฉนดชุมชน จะเป็นลักษณะของการรวมตัวของชุมชน บริหารจัดการกันเอง โดยจัดตั้งขึ้นในรูปองค์กร สหกรณ์ และองค์กรนั้น สามารถนำที่ดินดังกล่าวเป็นหลักทรัพย์เพื่อกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ เพื่อประโยชน์ของชุมชน โดยโฉนดชุมชนเมื่อเป็นในรูปขององค์กรแล้วจะซื้อ-ขายเปลี่ยนมือไม่ได้ ซึ่งจะเหมือนกับบ้านมั่นคง ที่เป็นของชุมชน "

ต่อข้อถามที่ว่า โฉนดชุมชนจะต่างกับ ส.ป.ก. 4-01 อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า โฉนดชุมชนเป็นตัวองค์กร ส่วน ส.ป.ก.4-01 ยังยึดที่ตัวบุคคล โดยให้สิทธิทำกินเป็นรายๆไป "ที่ผ่านมา รัฐได้ให้ที่ดินทำกินกับประชาชนไป แต่กลับนำที่ดินดังกล่าวขายให้กับนายทุน แต่ วันนี้รัฐจะดึงทุนออกมาและให้ประชาชนรวมตัวกันเป็นองค์กร "

ขณะที่โฉนดชุมชนนั้น อยู่ที่ประเภทของที่ดิน ได้แก่ ที่ดิน ธนารักษ์ ส.ป.ก. ป่าไม้ ซึ่งขณะนี้ได้ออกเป็นระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรีออกมารองรับ โดยเชื่อมโยงกับธนาคารที่ดิน ที่จะช่วยแก้ปัญหาที่ดินทำกินผ่านโฉนดชุมชน ซึ่งธนาคารที่ดินและโฉนดชุมชน นับเป็นนวัตกรรม ที่จะเชื่อมกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในอนาคต

"รัฐบาลจะกันเงินส่วนหนึ่งมาตั้งเป็นธนาคารที่ดิน โดยเริ่มจากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และลำดับต่อไป จะมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และที่ดินดังกล่าวสามารถเข้าแบงก์ได้ "

ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า ยังเดินหน้าอยู่ไม่มีชะลอ หรือ หยุดเดินหน้า เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ดีและแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้เป็นอย่างดี

ด้าน นายประทีป เจริญพร รองอธิบดีกรมที่ดิน ให้ความเห็นถึงกรณีโครงการโฉนดชุมชน และธนาคารที่ดินว่า รัฐบาลจะผลักดันโครงการโฉนดชุมชนออกมาก่อน ซึ่งจะร่างเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาบังคับใช้ คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เร็วๆนี้ส่วนธนาคารที่ดิน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ มีความสลับซับซ้อน ต้องใช้เวลาดำเนินการอีกระยะหนึ่ง

ทั้งนี้วิธีคิดเกี่ยวกับ โครงการโฉนดชุมชน จะเป็นลักษณะการนำที่ดินที่มีการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ การบุกรุกที่ป่าของประชาชน เพื่อให้ได้ที่ดินทำกิน และอยู่อาศัย ที่ผิดกฎหมายให้สามารถเข้าทำประโยชน์ได้อย่างถูกกฎหมาย

โดยจะพิจารณาออกหนังสือรับรองการใช้ที่ดินผืนดังกล่าวทั้งผืนที่มีชุมชนเข้า ทำประโยชน์ โดยแต่ละชุมชนจะต้องรวมตัวกันเพื่อขออนุญาตฯ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ดินผืนดังกล่าวเมื่อเป็นโฉนดชุมชนแล้ว จะซื้อ-ขายเปลี่ยนมือไม่ได้ ขณะเดียวกัน คนในชุมชนจะเป็นผู้ที่ตรวจสอบกันเอง หากใครทุจริต หรือ แอบเปลี่ยนมือ ทำประโยชน์ จะสามารถเอาผิดและยึดที่ดินคืนได้

อย่างไรก็ดีการออกหนังสืออนุญาตใช้ที่ดิน หรือ โฉนดชุมชน กรณีเป็นที่ดินของป่าไม้ก็ให้กรมป่าไม้ อนุญาต กรณีที่ดินสาธารณประโยชน์ก็เป็นหน้าที่ของอำเภอนั้นๆ เป็นผู้ออกหนังสืออนุญาต ส่วนธนาคารที่ดิน จะมีรูปแบบ 2 ลักษณะคือ รัฐบาลให้เงินสนับสนุนในรูปของกองทุน เพื่อ

1. ซื้อที่ดินที่เป็นหนี้เน่า จากสถาบันการเงินในราคาถูก 2. รวบรวมที่ดินที่ถูกปล่อยรกร้างไม่ทำประโยชน์ทั่วประเทศ ซึ่งที่ดินดังกล่าวจะต้องมีเอกสารสิทธิ ทั้งนี้ ธนาคารที่ดินจะทำหน้าที่ นำที่ดินออกให้ประชาชนเช่าราคาถูกเพื่อใช้ทำประโยชน์เกี่ยวกับเกษตรกรรมเท่า นั้น

ขณะเดียวกัน ธนาคารที่ดิน จะเชื่อมโยงกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะนำมาจัดเก็บภาษี และแก้ปัญหานายทุนทิ้งร้างไม่ทำประโยชน์ในอนาคต

ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ธนาคารที่ดินยังดูเป็นเรื่องที่ไกล และยังไม่ตกผลึก ซึ่งรูปแบบอาจจะเป็นองค์การมหาชน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้คนจนมีที่ดินทำกิน แต่เข้าไม่ถึงแหล่งที่ดิน โดยมีแนวทางในการดำเนินการ 3 ประการคือ 1.จับคนที่มีที่ดินแล้วอยากให้คนเช่ามาเจอกับคนที่ต้องการเช่าที่ดินเพื่อ การทำกิน ในลักษณะของการแมตชิ่ง (จับคู่กัน) 2. สรรหาที่ดินว่างเปล่า ไม่ว่าจะเป็นที่ดินราชการ ที่ดินป่าเสื่อมโทรม ที่กฎหมายเอื้อนำมาให้คนจนเช่าทำมาหากินและ 3. ใช้เงินจัดซื้อที่ดินในราคาถูกมาให้คนจนได้เข้าถึง

"เรื่องของการหาเงินมาซื้อที่ดินนั้นกระทรวงการคลังมีแนวคิด อาจจะจัดตั้งเป็นกองทุน โดยมีแนวคิดจะหัก 2 % จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ"

รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามคงต้องผลักดันโครงการโฉนดชุมชนเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.ให้แล้วเสร็จก่อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสร้างกติกากลาง

เพื่อวางระเบียบ ในการดำเนินการก่อน เช่น การตั้งเงื่อนไขให้ชุมชนเข้มแข็งดูแลกันเอง หรือมีกรรมสิทธิ์ในการทำมาหากิน นาน 30 ปี และต้องเป็นที่ดินใช้ในเชิงเกษตรกรรม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 13 - 16 ก.ย. 2552

0 ความคิดเห็น: