100 สถาปนิกชิงออกแบบรัฐสภา อาคารรัฐสภาใหม่ค่า1.2หมื่นล้าน/เร่งคัดเหลือรายเดียววันที่ 5 ธันวานี้

การประกวดแบบก่อสร้างอาคาร รัฐสภาใหม่ค่า 1.2 หมื่นล้านคึกคัก เผยสถาปนิกร่วมร้อยแห่ประมูล หลังปิดรับเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมาจากนั้นคัดเหลือ 10 แบบและหั่นเหลือ 5 แบบ

โดยรอบสุดท้ายแจกทุนแบบละ 1 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่าย ก่อนชิงดำหาผู้ชนะคว้างบ 200 ล้านบาทวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ไว้เป็นค่าออกแบบใช้เวลาอีก 8 เดือนก่อนเปิดประมูลหาผู้รับเหมา

นายนิคม ไวรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าหลังปิดรับการประกวดออกแบบการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริเวณสี่แยกเกียกกาย เป็นวันสุดท้าย

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่ามีสถาปนิกสนใจยื่นเข้าประกวดทั้งสิ้น 98 รายทั้งในรูปแบบบริษัทและบุคคล จากจำนวนแบบประมาณ 132 แบบ แล้วหลังจากนั้นจะคัดแบบให้เหลือ 25 % ขั้นต่อไป จะคัดออกอีกรอบหนึ่งให้เหลือ 10 แบบ จากนั้นให้มาแสดงวิสัยทัศน์เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 5 แบบ

เมื่อคัดผู้เข้าประกวดแบบเหลือ 5 แบบแล้วทางสภาจะให้งบประมาณรายละ 1 ล้านบาทเพื่อเป็นทุนในการไปคิดแบบเข้ามาแข่งขันกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อเข้า ชิงในรอบรองสุดท้ายก่อนที่

จะคัดเหลือเพียง 1 แบบ

รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่าการออกแบบมีองค์ประกอบหลักทั้งจากวัสดุที่หาได้ เพื่อนำมาทำแบบจำลอง ในลักษณะภาพวาด รูปปั้นโมเดล ฯลฯ และในจำนวน 5 แบบนี้จะเปิดให้ มีการร่วมลงทุนกับบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งสถาปนิก วิศวกร ภูมิสถาปัตย์ ฯลฯ โดยจะเน้นให้เป็นบริษัทไทยเป็นหลัก กรณีที่มีการร่วมกลุ่มหรือ จอยต์เวนเจอร์ หากเป็นบริษัทต่างชาติ จะให้มีบริษัทไทยที่มีสัดส่วนที่มากกว่าต่างชาติ

"ทั้งเน้นการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่โดดเด่น ผสมผสานกับความทันสมัย ประหยัดพลังงาน เน้นภูมิทัศน์สวยงามที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมเพราะด้านหน้าอยู่ติดกับริม แม่น้ำเจ้าพระยากว่า 500 เมตร ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และมีประวัติความเป็นมาของกรุงรัตนโกสินทร์ สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ทั้งทางน้ำและบริเวณโดยรอบ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 300,000 ตารางเมตร มีที่จอดรถ 5,000 คัน ในเนื้อที่ทั้งหมด 119 ไร่"

เมื่อได้ผู้ชนะการประกวดจะทำสัญญาจ้าง ออกแบบก่อสร้างอย่างเป็นทางการด้วยงบประมาณในราว 200 ล้านบาท จากมูลค่าก่อสร้างของโครงการที่ตั้งไว้ 12,000 ล้านบาทจาก

นั้นจะใช้เวลาราว 8 เดือนในการออกแบบรายละเอียดและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2553 โดยจะมีการประมูลด้วยวิธี อี-ออกชัน ใช้เวลาก่อสร้าง 900 วัน หลังก่อนหน้านั้นได้ตั้งงบประมาณ 4,900 ล้านบาทในการจ่ายชดเชยค่ารื้อย้ายชุมชน และจัดหาสถานที่ชดเชยให้ใหม่ ทั้ง ชุมชนโรงงานทอผ้า บ้านพักทหาร หอสมุดของกทม. โรงเรียนโยธินบูรณะ ที่ดินเอกชน โรงเลื่อยเก่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ฯลฯ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ชดเชยและรื้อย้ายไปเรียบร้อยแล้ว นายนิคมกล่าว

นายทวีจิตร จันทร์สาขา นายกสมคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ หนึ่งในคณะกรรมการกล่าวว่า การคัดเลือกได้เริ่มแล้วเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมจากนั้นจะดำเนินการตามขั้นตอนที่วางไว้โดยคาดว่าน่าจะได้ผู้ชนะการ ประกวดแบบในวันที่ 5 ธันวาคนนี้จากนั้นจะ

ใช้เวลาในการออกแบบรายละเอียดอีก 8 เดือน

"งานนี้ถือเป็นงานใหญ่และเป็นหน้าเป็นตาของสถาปนิกซึ่งใคร ๆ ก็อยากได้ จึงมีผู้สนใจยื่นแบบเข้าไปประกวดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งโครงการนี้ถือเป็นหน้าที่ของประเทศชาติ ฉะนั้นสถาปนิกไทยก็อยากมีส่วนรวมอย่างเต็มที่เพื่อแสดงฝีมือ ในการออกแบบ "

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ 20 - 22 ส.ค. 2552