บสก.ปรับกลยุทธ์ขายที่ดินเปล่า โชว์ไอเดียทำเกษตรเร่งยอด

บสก. ปัดฝุ่นเร่งยอดขายที่ดินเปล่า โชว์ไอเดียใช้ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เจาะกลุ่มนักลงทุน ซื้อเก็บทำการเกษตรช่วงเกษียณ เตรียมต่อยอดแบ่งแปลงย่อยขายเพิ่ม

ในภาพรวม NPA ทั้งระบบมูลค่ากว่า 2.54 แสนล้านบาท ที่ดินเปล่าถือเป็น NPA ที่มีอยู่ในระบบมากที่สุดถึง 60% คิดเป็น 1.5 แสนล้านบาท หลายแปลงยังคงค้างอยู่ในระบบมานาน ไม่ได้มีการนำมาใช้ประโยชน์ กลายเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น 'บสก.' ในฐานะมือบริหารสินทรัพย์จึงต้องหาวิธีใหม่ๆที่ไม่ใช่แค่การลดราคามาช่วยใน การระบายทรัพย์ดังกล่าวที่ไม่มีใครสนใจและถูกปล่อยทิ้งร้าง ให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าในสายตาของนักลงทุน

วิธีการขายที่ดีที่สุดที่ บสก. มองไว้ คือ ต้องโชว์ศักยภาพของที่ดินแปลงนั้นให้นักลงทุนเห็นว่าเหมาะสมกับการลงทุนแบบ ใด ดังนั้นจึงเริ่มต้นด้วยการศึกษาที่ดินลงลึกเป็นรายแปลงว่าแต่ละแปลงมีเหมาะ สำหรับเพาะปลูกพืชชนิดใด ซึ่งก่อนหน้านี้ บสก. นำร่องด้วยโครงการขายที่ดินสำหรับปลูกพืชพลังงาน เป็นการอิงกระแสในช่วงวิกฤตราคาน้ำมันแพง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมียอดขายในปีที่แล้ว 600 ล้านบาท ล่าสุดได้ต่อยอดกลายมาเป็น 'โครงการพออยู่ พอกิน กับที่ดิน บสก.' เป็นการขายที่ดินเปล่าทั่วประเทศ สำหรับทำการเกษตร เน้นให้เกษตรมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง รองรับแรงงานที่ถูกเลิกจ้างและจะกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร รวมไปถึงกลุ่มผู้เกษียณอายุราชการ

วิธีการเสนอขายที่ดินเปล่าในโครงการดังกล่าวของ บสก. นอกจากจะระบุพันธุ์พืชที่เหมาะสมจะปลูกในที่ดินนั้นๆ แล้ว ยังมีการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการลงทุนเบื้องต้นด้วย เช่น ปลูกบ้าน ขุดบ่อปลา ฯลฯ ซึ่ง บสก. ได้นำที่ดิน ถ.รามคำแหง เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ราชบุรี เชียงใหม่ และเชียงราย มาจัดทำแปลงสาธิตขึ้น ภายใต้แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ ได้แก่ ปลูกข้าว ชุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกพืชสวนพืชไร่ ที่อยู่อาศัย ยึดหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่เน้นการพึ่งพาตนเอง แปลงสาธิตดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือการขายอีกชิ้นที่ช่วยให้ผู้ซื้อได้เห็น ภาพจริง เป็นการให้ความรู้ และสามารถกระตุ้นการตัดสินใจได้ดี

จากที่ดินเปล่าที่ บสก. ถืออยู่กว่า 10,000 แปลง มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท บสก. ได้คัดที่ดินเปล่าเนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ จำนวน 500 แปลง มูลค่า 1,000 ล้านบาท มาเสนอขายในราคาพิเศษ และจัดโปรโมชั่นสำหรับผู้จองซื้อภายใน 30 มิ.ย. นี้ รับส่วนลดเพิ่ม 5% จากราคาอนุมัติขาย ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนลูกค้ารายย่อยที่ไม่สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ สามารถผ่อนชำระกับบสก. โดยราคาทรัพย์ต้องไม่เกิน 2 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย MLR-3% ตลอดระยะเวลาผ่อนชำระ 10 ปี นอกจากนี้ยังได้ดึงบริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร ผู้ผลิตกระดาษดับเบิ้ลเอ เป็นผู้สนับสนุนกล้าไม้ต้นกระดาษเพื่อให้นำไปปลูกในที่ดิน และรับซื้อในราคาที่เป็นธรรม

จุดประสงค์ของโครงการ บรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (บสก.) กล่าวว่า เป็นการส่งเสริมให้นำที่ดินออกมาใช้ประโยชน์ เน้นการทำเกษตรแบบพึ่งพาตนเองมากกว่าเชิงธุรกิจหรืออุตสาหกรรม ซึ่งในช่วงแรกจะนำที่ดินแปลงเดี่ยวมาเสนอขายก่อน และจะเร่งนำแปลงใหญ่ที่มีขนาด 50 ไร่ ขึ้นไปที่มีความเหมาะสม มารังวัดที่ดิน แบ่งเป็นแปลงย่อย และออกโฉนดใหม่ เพื่อเสนอขายเพิ่มในอนาคต คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 6 เดือน ออกมาเป็นที่ดินล็อตใหม่มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 500 ล้านบาท

'ตอนนี้คนเริ่มตระหนักแล้วว่าราคาที่ดินถูกลง เป็นจังหวะของการซื้อเพื่อลงทุน คนที่มาชมแปลงสาธิตก็ให้ความสนใจมากๆ ส่วนใหญ่อยากให้เราทำแบบสำเร็จรูป ลงพืชให้ เหมือนกับที่เห็นในแปลงสาธิตให้เลย ซึ่งเราก็อาจจะประสานให้พันธมิตรที่เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยทำให้' บรรยงกล่าว

สำหรับแผนการขาย บสก. จะนำที่ดินในโครงการไปเสนอขายร่วมกับทรัพย์อื่นๆ ในงาน NPA Grand Sales, Money Expo, มหกรรมบ้านและคอนโด เป็นต้น โชว์รูมตามภูมิภาค และโรดโชว์ตามห้างสรรพสินค้าในต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังมีแผนจะตั้งโชว์รูมขนาด 40-50 ตร.ม. เพิ่มตาม 4 มุมเมืองของกรุงเทพฯ เพื่อให้ใกล้กับทำเลที่ตั้งของทรัพย์ต่างๆ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งนี้อาจจะเป็นโชว์รูมแบบสแตนอะโลนหรือ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของพันธมิตรที่สอดคล้องกับธุรกิจของ บสก. เช่น อินเด็กซ์ เพาเวอร์บาย เป็นต้น

ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ 18-06-52