อสังหาฯเห็นสัญญาณฟื้นตัว"เอเชี่ยนฯ-เพอร์เฟค"ขยับแผนลงทุน

วงการอสังหาฯประเมินธุรกิจเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวหลังการเมืองคลี่คลาย "เอเชี่ยนฯ" เดินหน้าแผนลงทุนโครงการใหม่ทุกเดือนถึงไตรมาสแรกปีหน้า รวม 12 โปรเจ็กต์ 2.1 หมื่นล้านบาท ส่วน"เพอร์เฟค" ประกาศลงทุนอีก 8 โครงการ 1.4 หมื่นล้านบาท ซุ่มเจรจา เทกโอเวอร์โรงงานพรีแฟบช่วยลดระยะเวลาก่อสร้าง

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "เอพี" เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้เริ่มกลับมานิ่งขึ้น หลังปัญหาการเมืองเริ่มคลี่คลายในระดับหนึ่ง หลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในภาพรวมตลาดพอสมควร สำหรับเอพีไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉลี่ยมียอดขายกว่า 100 ล้านบาทต่อสัปดาห์ และมีลูกค้าเยี่ยมชมโครงการเฉลี่ย 400 รายต่อสัปดาห์ ทำให้บริษัทมีรายได้รวมและกำไรในช่วงไตรมาสแรกปีนี้เติบโตขึ้น

สำหรับ ไตรมาสแรกมีรายได้รวม 2,815 ล้านบาท เติบโตขึ้น 114% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 481 ล้านบาท เติบโตขึ้น 217% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้นบริษัทจึงมีความมั่นใจจะลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ โดยนับจากนี้ไปจนถึงช่วงไตรมาสแรกปี 2553 จะเปิดตัวโครงการใหม่ทุกเดือน ทั้งหมด 12 โครงการ รวมมูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท เป็นคอนโดฯ 7 โครงการ มูลค่า 1.39 หมื่นล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์-บ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่ารวม 7,370 ล้านบาท เฉพาะปีนี้จะทยอยเปิดตัวก่อนจำนวน 8 โครงการ และเตรียมงบประมาณซื้อที่ดินใหม่รองรับการพัฒนาอีกจำนวน 4,000 ล้านบาท

" อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว ยอดขายและกำไรทั้งปีอาจจะใกล้เคียงกับปีก่อน หรือบวกลบไม่เกิน 10% เพราะลึกๆ แล้วยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก การเมืองในประเทศที่เริ่มมีสัญญาณทางลบในเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล"

นายชายนิด โง้วศิริมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทชะลอแผนลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ประเมินว่าปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นและการเมือง เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ โดยการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 4.4 แสนล้านบาทของรัฐบาล เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้บริษัทตัดสินใจเดินหน้าแผนลงทุนพัฒนาโครงการในปีนี้ อีกครั้ง ประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ จำนวน 8 โครงการ รวมมูลค่า 1.41 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามเพอร์เฟคได้ปรับ กลยุทธ์ดำเนินงานใหม่ เน้นการเปิดโครงการมากขึ้นแต่ลดขนาดโครงการให้เล็กลง ขณะเดียวกันได้วางเป้าหมายลดระยะเวลาการก่อสร้างบ้านเหลือเฉลี่ย 5 เดือนต่อยูนิต จากเดิม 6-8 เดือนต่อยูนิต โดยนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูป หรือ "พรีแฟบ" มาใช้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทมีแผนจะเทกโอเวอร์โรงงาน พรีแฟบ มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท มีกำลังการผลิตรองรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ประมาณ 1,000-2,000 ยูนิตต่อปี ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจา คาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มผลิตชิ้นส่วนรองรับการก่อสร้างได้ภายในเวลาไม่ เกิน 1 ปีนับจากนี้

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 28-05-52