ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
9 พฤษภาคม 2552

แนวคิดการพัฒนาโครงการที่ พักอาศัยภายใต้สโลแกน “ชีวิตทัน สมัยในสังคมที่ร่มรื่น” เป็นไอเดีย ที่ จุดประกายให้ไอริส กรุ๊ป ในวันนี้เป็น ที่ยอมรับและเชื่อมั่นของลูกค้า

กิตติพงษ์ สุมานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด เปิดใจกับ “สยามธุรกิจ” ถึงการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ท่าม กลาง ภาวะวิกฤติของเศรษฐกิจที่ตกต่ำทั่วโลก ณ วันนี้ ว่าอย่ามองที่รายได้หรือกำไรเป็นตัวตั้ง แต่ต้องมองว่าเราทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่ เพราะถ้าเทียบรายได้ในปีนี้กับปีที่ผ่านมา แน่นอนว่ารายได้ปีนี้หายไปอย่างน้อย 10-20%

ไอริส กรุ๊ป เรามีโจทย์ในการทำงานที่ชัดเจน มีการสำรวจกลุ่มเป้าหมายและจุดขายของแต่ละโครงการว่าทำแล้ว ต้องขายหมดและขายเร็วไม่ ยืดเยื้อ โดยเฉพาะการทำคอนโดมิเนียม ต้องศึกษาช่วงจังหวะเวลาการขึ้น-ลงของตลาดคอนโดมิเนียมให้ดี

ในช่วงปี 2548, 2549 และ 2550 ตลาดคอนโดมิเนียมเติบโตเร็วมาก ผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่โดด มาเล่นตลาดคอนโดฯ กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะทำเลใจกลางเมือง ใกล้แนวรถไฟฟ้า เพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และชีวิตการทำงานของคนกลุ่มใหม่ที่มีอายุระหว่าง 27-35 ปีขึ้นไปได้อย่างมาก ช่วงนั้นตลาดคอนโดฯบูมมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ขณะที่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์หรือบ้านแฝดยอดขายคงที่ซึ่งถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของตลาดคอนโดฯ

แต่ในปี 2552 นี้ ตลาดคอนโดฯตกต่ำลงเฉลี่ยประมาณ 20% เทียบเท่ากับที่เคยเติบโต เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกที่ลามมาถึงเมืองไทย ส่งผลกับค่าครองชีพของคนเมืองและกลุ่มมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก ยอด ขาย โอน ซื้อ-ขายคอนโดฯ จึงหยุด ชะงัก เกือบจะไม่มีการซื้อ-ขายโครงการ ใหม่ๆ ที่อยู่ห่างจากแนวรถไฟฟ้าเกิน 2 กิโลเมตรเลย

ชี้ชัดได้ว่าความต้องการซื้อในตลาดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตก ต่ำอยู่ ณ วันนี้เป็นผลจากยอดขายคอนโดฯ ที่หดหายไป

ในส่วนของ ไอริส จึงต้องปรับแผนใหม่ หยุดการสร้างคอนโดมิเนียม ลงชั่วคราว 1-2 ปี เพื่อรอดูจังหวะการฟื้นตัวของตลาดกลุ่มนี้ก่อนที่จะมีการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่เป็นแนวสูง

จึงเน้นพัฒนาโครงการในรูปแบบ ที่เป็นเอกลักษณ์และมีเป้าหมายหลัก ที่จะเติบโตเป็นดีเวลอปเปอร์ที่ให้บริการได้ครบวงจรโดยการพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัยแนวราบรวมไปถึงโรงแรม และศูนย์การค้า เพื่อทดแทนตลาด คอนโดมิเนียมที่หายไป

ปัจจุบันไอริส กรุ๊ป มี 4 บริษัทในเครือและมีผลงาน 3 โครงการคือโครงการไอริส เรสซิเดนซ์ มูลค่า 200 ล้านบาท, โครงการ ไอริส ออคิด พาร์ค มูลค่า 600 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม โครงการแรกในชื่อโครงการดิ ไอริส มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท บนถนนพระราม 9-ศรีนครินทร์ ซึ่งขายไปแล้วประมาณกว่า 90% ตั้งแต่ปี 2551 ที่ผ่านมา

“เรามองว่าทำการตลาดที่ดี คือ การออกโปรดักต์ที่โดนใจลูกค้า บวกกับความคุ้มค่า เมื่ออยู่แล้วลูกค้าต้องมีความสุข โครงการที่เราสร้างใหม่ที่สำโรง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า แบริ่ง จะเป็นต้นแบบโครงการที่มีพร้อมทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ ทั้งบ้านเดี่ยวที่มีอยู่ 80 หลังและทาวน์เฮาส์ 125 หลัง ในพื้นที่ 20 ไร่ ที่สำคัญคือนอกจากธรรมชาติที่เขียวขจีด้วยต้นไม้แล้ว จะมีห้องสมุดและห้องพุทธศาสนา ให้ลูกค้าได้ผ่อนคลายยามว่าง”

สำหรับแผนงานในปี 2552 ของไอริส กรุ๊ป ยังยึดมั่นในหลักการบริหาร ที่พักอาศัย ภายใต้แนวคิด “ชีวิตทัน สมัยในสังคมที่ร่มรื่น” แต่จะลดไซส์ของโครงการเกิดใหม่ให้เล็กลง เพื่อ ให้สามารถขายและปิดโครงการได้เร็วโดยให้ความสำคัญกับทำเลที่ตั้งใกล้สถานี รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ควบคู่ไปกับการรักษาสภาพคล่อง การบริหาร ต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

การเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดบนถนนสายสำโรงในปลายปีนี้ เป็นโครงการบ้านสร้างก่อนขาย สไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล เป็นทาวน์เฮาส์ ขนาด 20 ตารางวา จำนวน 125 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว ขนาด 35 ตารางวาขึ้นไป จำนวน 75-80 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 2.4 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการรวม 20 ไร่ รวมมูลค่าโครงการ 400-500 ล้านบาท เจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เริ่มสร้างครอบครัว มีอายุตั้งแต่ 27 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีรายได้ในระดับสองหมื่นปลายๆ ต่อเดือนขึ้นไป เป็นทางเลือกของกลุ่มคนอยู่คอนโดฯ ที่ต้องการสร้างครอบครัว หรือคนที่เคยอยู่คอนโดฯแต่อยากมีบ้าน และต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางโครงการนี้ จะตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกข้อ

เพราะใกล้แหล่งคมนาคม อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยาย สถานีแบริ่ง เพียง 2 กิโลเมตรเศษ สามารถเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง ได้สะดวกและรวดเร็ว และเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งการเดินทางออกนอกเมือง ด้วยถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ถนนวง แหวนรอบนอกฝั่งใต้ และยังแวดล้อมไปด้วยระบบสาธารณูปโภคอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ, โรงเรียนเซนต์โยเซฟ สมุทรปราการ, โรงเรียนนานาชาติบาง กอกพัฒนา, โรงเรียนลาซาล ล้อมรอบด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น เซ็นทรัลซิตี้ บางนา, บิ๊กซี, คาร์ฟูร์, อิมพีเรียล สำโรง เป็นต้น

“เราสร้างที่พักอาศัย ตามความ ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และวิวัฒนาการของธุรกิจที่เปลี่ยนจากที่ผ่านมา เดิมเป็นการสร้างบ้านเปล่า แต่ ณ วันนี้ การสร้างที่พักอาศัยต้อง มีดีไซน์และการตกแต่งสมบูรณ์แบบ โดยใส่ความเป็นไลฟ์สไตล์และความทันสมัย ที่นำคอนเซปต์มาจากต่างประเทศผสมกับสไตล์แบบไทยๆ”

ก่อนหน้าที่จะเปิดโครงการแต่ละแห่ง บริษัทจะต้องทำการวิจัย รวมถึงวิเคราะห์ถึงความต้องการของลูกค้าใน แต่ละทำเลอย่างหนัก เพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการจัดสรรที่มีคุณภาพ เหมาะแก่การอยู่อาศัย มุ่งเน้นการพัฒนาโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งจะเห็นได้ว่า โครงการที่เราจะเปิดตัวในปีนี้ ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ประกอบไปด้วยโครงข่ายคมนาคมที่สามารถเดินทางได้สะดวก และยังเป็นทำเลที่จะเพิ่มค่าในอนาคต

ที่มา : สยามธุรกิจ 2-5 May 09

0 ความคิดเห็น: