ทุนอิสราเอลลุยโครงการอสังหาริมทรัพย์ 2หมื่นล้าน

อสังหาริมทรัพย์ไทยยังเนื้อหอม กลุ่มทุนจากอิสราเอล IBC ร่วมมือตระกูล "เตชะไกรศรี" ผุดโครงการใหญ่ "Bangkok Mixed Use” มูลค่าเฉียด 2 หมื่นล้าน

แหล่งข่าวจากบริษัทที่ ปรึกษาการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย แม้ในช่วงนี้จะชะลอตัว และนักลงทุนหลายกลุ่มชะลอดูท่าที แต่ก็ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ท่ามกลางภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ และความวุ่นวายทางการเมืองและสังคมภายในประเทศก็ตาม

แต่ล่าสุดบริษัท อินดัสเทรียล บิลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Industrial Building Corporation Ltd. :IBC) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก และเป็นบริษัทลูกของ Jerusalem Economic Ltd. (JEC) ได้เข้ามาร่วมทุนกับบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ของตระกูล "เตชะไกรศรี " ผู้พัฒนาโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส เพื่อลงทุนในโครงการ “Bangkok Mixed Use” มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาท บนเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ช่องนนทรี ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ติดกับโครงการโครงการ “ดิ อินฟินิตี้” ของ บริษัทโกลเด้นแลนด์ ฯ. ซึ่งถือว่าเป็นทำเลทองอีกแห่งหนึ่ง

โครงการ “Bangkok Mixed Use” เป็นอาคารสูง 70 ชั้น ประกอบด้วย โรงแรม, เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ และพื้นที่ค้าปลีก มีพื้นที่รวม 1.23 แสนตารางเมตร โดยในส่วนของโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ จะดึง Ritz Carlton ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ให้เข้ามาเป็นผู้ผู้บริหาร

ความเคลื่อนไหวของ IBC เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เมื่อบริษัทตัดสินใจลงทุนประมาณ 16 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 560 ล้านบาท) ตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว กับบริษัท เพซ เรียลเอสเตท จำกัด มีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มีกรรมการบริษัท 6 คน ประกอบไปด้วยนายสุเมธ เตชะไกรศรี,นายโชติพล เตชะไกรศรี ,นายสรพจน์ เตชะไกรศรี,นางสาวอนัต เมนิเพซ ซึ่งเป็นกรรมการ ของ JEC,นางสาวดาลิท ราเชล บรอน ซีอีโอ ของ IBC และนายยาคอป เบน โมเช

สำหรับ IBC และ JEC เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอิสราเอล โดยมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ของ JEC อยู่ที่ 211 ล้านดอลล่าร์ (ประมาณ 7,385 ล้านบาท) IBC 367 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท) โดยในปี 2551 JEC มีรายได้ประมาณ 374 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท) มีมูลค่าทรัพย์สิน 5,335 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.86 แสนล้านบาท) ขณะที่ IBC มีรายได้ 167 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,845 ล้านบาท) และมีมูลค่าทรัพย์สิน 2,571 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.99 หมื่นล้านบาท)

ทั้งนี้ IBC ก่อตั้งขึ้นในปี 2504 เข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2536 ปัจจุบันถือหุ้นใหญ่ 66% โดย กลุ่ม Fishman Group ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Jerusalem Economic โดยธุรกิจหลักของบริษัทได้แก่ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ตั้งแต่การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคของประเทศ โครงการจัดสรร อาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงาน ศูนย์การค้า ในหลายประเทศ เช่น อิสราเอล สหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ มาเซโดเนีย เซอร์เบีย ลัตเวีย มอลโดว่า อินเดีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นต้น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 24-04-52