ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
27 มกราคม 2552

ถ้ารัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เก่งจริง กล้าจริง ก็ต้องดำเนินการเสนอกฎหมายภาษีมรดก และภาษีที่ดิน

ให้ประจักษ์ในความกล้าหาญ และมุ่งมั่นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคมไทย

ยิ่งรัฐมนตรีคลัง กรณ์ จาติกวณิช บอกว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ท้าทายว่า "ที่ผ่านมามีภาษีตัวหนึ่งเสนอเมื่อไหร่รัฐบาลล้มทุกที นั่นคือภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง..." ก็ยิ่งสมควรจะต้องรับคำท้า

คุณกรณ์ บอกว่า "ผมจะขอลองดู...ที่ผ่านมาเสนอทีไร สภาล่มตลอด แต่คิดว่าประเทศถึงเวลาที่จะพิจารณาภาษีนี้สักที..."

ส่วนเรื่องภาษีมรดก นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนนี้บอกว่า อยู่ระหว่างการศึกษาของ สศค.

ความ จริง ประเด็นภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างกับภาษีมรดก นั้น รัฐบาลไทยหลายรัฐบาลได้ศึกษาเอาไว้มากมายแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องตั้งคณะกรรมการศึกษาอีกแล้ว

ข้อมูลทุกอย่างทุกด้าน รวมไปถึงเหตุผลสนับสนุน และต่อต้านก็ได้รับรู้กันมาทุกยุคทุกสมัย แต่ที่ไม่เคยผ่านการพิจารณาของรัฐสภา ก็เพราะนักการเมืองไทยขาดความกล้าหาญ และจริงใจต่อคำมั่นสัญญาของตัวเอง ว่าจะมุ่งสร้างความเป็นธรรมให้กับสังคมไทย

และเหตุผลที่แท้จริงก็คือ นักการเมืองไม่กล้าลงมติให้ผ่านกฎหมายสองเรื่องนี้ ก็เพราะกลัวจะกระทบผลประโยชน์ของตนเอง

นักการเมืองที่ร่ำรวยและสั่งสมทรัพย์สินเงินทองทั้งด้วยวิธีการสุจริต และที่โกงกินประชาชนก็กลัวว่ากฎหมายสองเรื่องนี้จะกระทบตัวเองอย่างจัง

หรือไม่นายทุนของนักการเมืองนั่นเองแหละ ที่วิ่งเต้นไม่ให้นักการเมืองกล้าทำในสิ่งที่ประชาชนชนชั้นกลาง และยากไร้คาดหวังในตัวนักการเมืองว่าจะทำในสิ่งยากๆ แต่จำเป็นอย่างยิ่ง

สถิติ และข้อมูลที่ศึกษาวิจัยกันมาหลายสิบปีนั้นยืนยันว่า ความไม่เสมอภาคของสังคมไทยมาจากการที่คนรวยได้ประโยชน์จากกฎหมายที่เอื้อกับ กลุ่มคนมีเงินและคนมีอำนาจทางการเมือง

ยิ่งเมื่อคนสองกลุ่มนี้รวมตัวกันเพื่อกุมอำนาจรัฐ และสามารถมีอิทธิพลเหนือกระบวนการนิติบัญญัติ ก็ยิ่งทำให้การออกกฎหมายที่มีความสำคัญต่อการสร้างความเท่าเทียมในสังคมเกิด ขึ้นได้ยากยิ่ง

คุณ กรณ์ ได้รับคำท้าจากสังคมโดยส่วนรวมแล้ว และยิ่งเจ้าหน้าที่ประจำของกระทรวงการคลัง ที่ได้ศึกษาเรื่องภาษีที่ดิน และมรดกบอกว่า รัฐบาลไหนเสนอเรื่องสองเรื่องนี้เข้าสภา มักจะมีอันเป็นไป ก็ยิ่งทำให้รัฐบาลประชาธิปัตย์ แสดงให้ประชาชนคนไทยเห็นว่ามีความมุ่งมั่น และกล้าหาญทางการเมืองเพียงใด

เพราะผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ ได้ทำในสิ่งที่นักการเมืองที่ "ไร้จุดยืนเคียงข้างประชาชน" ต้องการให้ทำ นั่นคือ การผลักดันให้ออกกฎหมายที่จะสร้าง "ความถูกต้องเป็นธรรม" ในสังคม

ความเป็นธรรมที่ว่านี้ก็คือ การที่คนรวยจะต้องจ่ายภาษีในสิ่งที่ตนได้มาเพราะความได้เปรียบมากกว่าคนอื่นๆ ในสังคม

อีกทั้งการเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดก นั้น เป็นการกระตุ้นให้ลูกหลานคนร่ำรวยต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนลูกหลานคนไทยอื่นๆ ทั้งหลาย ว่าจะต้องลงมือทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง มิใช่นั่งรับทรัพย์สินเงินทองจากพ่อแม่ปู่ย่าตายายแล้วไม่คิดจะทำอะไรที่จะ เกิดประโยชน์ให้กับสังคมแต่อย่างไร

ประเทศ ที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย จะมีกฎหมายบังคับให้คนมีที่ดินมากๆ มีทรัพย์สินที่จะมอบเป็นมรดกให้ลูกหลานมาก ต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐีทั้งหลายได้คิดทำอะไรเพื่อ สังคม มากกว่าเพียงแค่การสั่งสมวัตถุเพื่อให้อยู่กับคนไม่กี่คนในตระกูลของตัวเอง เท่านั้น โดยที่ประเทศชาติได้ประโยชน์น้อยมาก จากความรุ่มรวยของเขาเหล่านั้น

รัฐบาลอภิสิทธิ์ กล้าพิสูจน์ไหมว่าตัวเองเป็นข้อยกเว้นของคำกล่าวที่ว่า "คนชนชั้นไหนมีหน้าที่ตรากฎหมาย ก็เพื่อเอื้อคนชนชั้นนั้น..." ?

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ 27 มกราคม 2552

0 ความคิดเห็น: