ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
23 มกราคม 2552

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวอภิปรายในหัวข้อเรื่องทิศทางตลาดเงินและตลาดทุนปี 2552 ผลกระทบที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ จัดโดยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ว่า มาตรการกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งเพิ่มค่าลดหย่อนจากเงินต้นซื้อ บ้าน 300,000 บาทสำหรับบ้านที่ซื้อและโอนภายในปีนี้ ถือเป็นความพยายามที่ดีของรัฐบาลเพราะคนที่ซื้อบ้านใหม่จะได้ประโยชน์จาก บ้านทุกราคาที่ซื้อ โดยกลุ่มที่จะได้ ประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็นคนที่มีรายได้เกิน 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปเพราะเมื่อคำนวณแล้วจะได้ภาษีคืนประมาณ 20-30% ของภาษีที่ต้องเสียประจำปี เมื่อประกอบกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนที่ต่ออายุไปถึงสิ้นปีหน้าจะช่วย ให้คนที่ต้องการซื้อบ้านใหม่ตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมบ้านสั่งสร้างและบ้านมือ 2 ซึ่งเป็นตลาดที่ซื้อขายกันจำนวนมากในต่างจังหวัด เพราะในขณะนี้หากพิจารณาอุปทานบ้านที่สร้างเสร็จแล้วมีเพียงในกรุงเทพฯและ ปริมณฑลเท่านั้น จึงจะเสนอให้รัฐบาลเพิ่มขนาดของมาตรการให้ครอบคลุมการซื้อบ้านมือสองและบ้าน สั่งสร้างที่เป็นการซื้อหลังแรกด้วย

“ในส่วนของ ธอส.นั้นตอนนี้สภาพคล่องมีมากเตรียมเงินไว้พร้อมที่จะปล่อยสินเชื่อประมาณ 70,000 ล้านบาท และยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มเงื่อนไขการกู้เงินแม้ว่าจะมีความเสี่ยงเพิ่ม ขึ้น อย่างไร ก็ตาม ต้องยอมรับว่าการปล่อยกู้ของ ธอส.มีความเข้มงวด ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันลูกค้าที่มีศักยภาพในการกู้ที่ดีส่วนใหญ่ก็จะได้รับ การปล่อยกู้ไปหมดแล้ว ทำให้ ธอส.เร่งรัดการตั้งบริษัทค้ำประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ลูกค้าที่มี ศักยภาพในการผ่อนแต่ไม่มีเงินดาวน์สามารถซื้อบ้านได้เพื่อเป็นการขยายฐานคน ซื้อบ้านเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ากลางปีนี้รัฐบาลคงอนุมัติให้ ธอส.สามารถตั้งบริษัทและพร้อมเริ่มประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้”

ขณะที่นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคม สินเชื่อที่อยู่อาศัย กล่าวว่า หากต้องการที่จะกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในขณะนี้ รัฐบาลควรดำเนินการ โครงการบ้านปลอดเงินดาวน์ หรือให้สินเชื่อซื้อบ้าน 100% ให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่มอย่างข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งจะทำให้เงินที่ลงมาตรงจุดกับคนที่มีความต้องการซื้อ ขณะที่โครงการประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่ทำได้ในสถานการณ์ที่ ธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากทั้งสินเชื่อซื้อบ้านและสิน เชื่อของผู้ประกอบการ

“ที่สำคัญที่สุดที่จะกระตุ้นกำลังซื้อคือการเร่งรัดให้ธนาคารพาณิชย์ปรับ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงให้มากกว่านี้และเร็วกว่านี้เพื่อให้โอกาสซื้อบ้าน ของประชาชนมีมากขึ้น เพราะหากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีลดลง 1% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่ลูกค้าผ่อนบ้านได้ลดลงจริงจะสูงถึง 7-8% ต่อปี ดังนั้น อยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปให้ระบบธนาคารพาณิชย์ผ่านเครื่องมือต่างๆที่มีมากมาย หรือนำเงินไปให้ธนาคารพาณิชย์กู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำมากๆเพื่อลดต้นทุนของ ธนาคารพาณิชย์อย่างที่ธนาคารกลางสหรัฐฯทำ เพราะในขณะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดแล้ว 1.75% แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังลดน้อยกว่ามาก”.

ที่มา : ไทยรัฐ 23-01-2552

0 ความคิดเห็น: