คลังเล็งเพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยบ้าน

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ได้รายงานให้ทราบถึงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 4 ของปีนี้โดยคาดว่า การขยายตัวจะอยู่ในระดับติดลบ ขณะที่ปี 2552 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 0-2% ซึ่งถือเป็นภาวะที่ร้ายแรงสุดในรอบหลายสิบปี จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องเข้ามาเยียวยา และออกมาตรการเพื่อให้มีผลต่อเศรษฐกิจ เช่น การกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเตรียมขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้ผู้กู้ซื้อบ้านในปี 2552 สามารถนำดอกเบี้ยเงินกู้ มาหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้น จากเดิมไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นไม่เกิน 2 แสนบาท

อย่างไรก็ตาม ค่าลดหย่อนดังกล่าวมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นผู้ซื้อบ้านจากโครงการหมู่บ้านจัดสรรเท่านั้น และเป็นบ้านใหม่ที่ต้องซื้อภายในปี 2552 ซึ่งขณะนี้ รัฐบาลยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะให้สิทธิประโยชน์เป็นระยะเวลากี่ปี

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่าการปรับโครงสร้างภาษีขณะนี้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงยังไม่เสนอให้ รมว.คลังพิจารณา โดยจะมีเพียงมาตรการภาษีในการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เท่านั้น

ขณะที่ ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการต่ออายุ 6 มาตรการ 6 เดือน เพื่อลดค่าครองชีพ ว่าควรคิดให้รอบคอบ เพราะอาจจะมีผลเสียมากกว่าผลดี และหลายอย่างอาจมีปัญหารั่วไหล ไม่ได้ช่วยเฉพาะคนมีรายได้น้อยอย่างแท้จริง ดังนั้น การช่วยเหลือควรจะทำแบบตรงจุดมากกว่า เช่น กรณีช่วยผู้ตกงาน ก็ควรจะมีสวัสดิการขึ้นมาโดยเฉพาะ

ส่วนเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมันควรจัดเก็บในอัตราเดิมทันที ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลมีรายได้กลับมาเพิ่มขึ้น 4,500 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งการปรับภาษีอาจมีผลกระทบต่อราคาขายปลีกบ้าง แต่รัฐสามารถบรรเทาผลกระทบ โดยการลดการเก็บเงินกองทุนน้ำมันสำหรับแก๊สโซฮอล์และดีเซลในอัตรา1.70 บาทต่อลิตร และเมื่อประกอบกับราคาน้ำมันโลกที่ลดลง จะทำให้ราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย และดีเซลไม่เพิ่มขึ้นเลย

ที่มา : คมชัดลึก 25-12-2551