ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
13 กันยายน 2553

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย 6 เดือนแรกบจ.แห่ระดมทุนเฉียด 5 หมื่นล้าน โดย "บีทีเอส กรุ๊ป" เจ้าเดียวล่อ 3 หมื่นล้าน ขณะที่ 8 เดือนแรกผู้ประกอบการอสังหาฯ ออกหุ้นกู้รวม 21,200 ล้าน ทั้งนี้ บิ๊กอสังหาฯ ต่างพาเหรดระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ หวังได้ต้นทุนการเงินต่ำในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เป็นแหล่งเงินทุนกว้านซื้อที่ดินตุนพัฒนาโครงการ "พฤกษา" เล็งออกอีกหุ้นกู้มูลค่า 4,000-5,000 ล้าน ใช้ขึ้นโครงการใหม่กว่า 20,000 ล้าน ขณะที่ "ศุภาลัย" ออกอีก 500 ล้าน

ความเคลื่อนไหวการซื้อที่ดินของบจ.กลุ่มที่อยู่อาศัย ล่าสุด บมจ.แอล.พี.เอ็น. แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเวลาไล่เลี่ยกัน ถึงการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการในอนาคตรวมเป็นเงิน 1,166.34 ล้านบาท

โดยวันที่ 7 กันยายน ผ่านมา แจ้งการซื้อที่ดินย่านพระราม 3 เนื้อที่ 5,742.2 ตารางวา ในราคา 779.01 ล้านบาทมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงการ ลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 ตามมาด้วยวันที่ 9 กันยายน แจ้งการซื้อที่ดินเปล่าเนื้อที่ 1,422.5 ตารางวา มูลค่า 387.33 ล้านบาท โดยชำระเป็นเงินชำระเงินสดทั้งหมดในวันโอนกรรมสิทธิ์ ( 1 ก.ย.53 ) แหล่งเงินทุนมาจากผลกำไรจากการดำเนินงาน และจากสถาบันการเงิน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) รายงานการเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียน ณ สิ้นไตรมาส2/53 ว่า มีมูลค่าการระดมทุนรวม 38,441.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13 เท่า หรือคิดเป็น 1,332 % เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาวะตลาดหลักทรัพย์ฯที่เอื้ออำนวย

ทั้งนี้ ส่งผลให้มูลค่าการระดมทุนรวมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 มีมูลค่ารวม 49,059.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เท่า หรือคิดเป็น 334.97% เมื่อเทียบกับในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2552 โดยมีการระดมทุนกระจายตัวในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

อย่างไรก็ตาม มูลค่าการระดมทุนส่วนใหญ่เกิดจากการระดมทุนของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มธุรกิจบริการ โดยเป็นผลจากการระดมทุนของบมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มูลค่า 31,369 ล้านบาท
ด้านนายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนจะออกหุ้นกู้เพิ่มอีก 4,000-5,000 ล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกหุ้นกู้ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท โดยจะให้ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารซีไอเอ็มบีเป็นผู้จำหน่าย คาดว่าจะเปิดจำหน่ายหุ้นกู้ได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ เงินที่ได้จะนำมาใช้สำหรับการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการต่อไป คาดว่าจะสามารถซื้อที่ดินได้กว่า 10 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการประมาณ 10 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท นับจากนี้ต่อเนื่องถึงปีหน้า ซึ่งจะต้องมีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วย โดยกำหนดประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 กันยายน นี้

"แผนการซื้อที่ดินบริษัทได้วางงบประมาณในปีนี้ไว้ 14,000 ล้านบาท จัดซื้อไปแล้ว 10,000 ล้านบาท โดยแผนการซื้อที่ดินดังกล่าวนี้ ได้ปรับเพิ่มจากแผนเดิมที่จะซื้อที่ดินเพียง 7,000 ล้านบาท เพราะผลประกอบการของบริษัทเติบโตกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยการออกหุ้นกู้ของบริษัทส่วนหนึ่งก็นำเงินไปลดโปรเจ็กต์โลน แล้วก็หมุนเงินในการพัฒนาโครงการต่อไป ซึ่งต้นทุนในตลาดเงินที่ได้มาก็ถือว่าต่ำ กว่าการไปใช้โปรเจ็กต์โลน และยังบริหารต้นทุนทางการเงินได้ง่ายด้วย เพราะดอกเบี้ยคงที่อยู่ 3-5 ปี ส่วนการใช้เงินกู้จากธนาคารก็มีดอกเบี้ยที่ขึ้นลง การบริหารต้นทุนการเงินก็ลำบากนิดหน่อย และยิ่งภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นด้วยก็ส่งผลให้ต้นทุนการเงินของบริษัทขยับเพิ่ม ขึ้นด้วย 0.3-0.4%" นายสมบูรณ์ กล่าว

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทอาจจะมีการออกหุ้นกู้เพิ่มเติมอีก 500 ล้านบาทนับจากนี้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทออกหุ้นกู้ไปแล้วรวมมูลค่า 2,200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ 3.1-3.8% ในระยะเวลา 3 - 5 ปี การออกหุ้นกู้ดังกล่าวบริษัทต้องการจะคงอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันไว้ในช่วง อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จะนำมาใช้สำหรับการซื้อที่ดิน และการพัฒนาโครงการ ปัจจุบันบริษัทใช้งบซื้อที่ดินแล้ว 3,600 ล้านบาท จำนวน 27 แปลง ซึ่งเพียงพอสำหรับการพัฒนาโครงการได้ถึง 1 ปีครึ่ง แบ่งการพัฒนาในช่วงครึ่งปีหลัง 13 แปลง จำนวน 13 โครงการ มูลค่าโครงการ 13,000 ล้านบาท และใน 1-2 ปีข้างหน้าอีก 14 แปลง จำนวน 14 โครงการมูลค่า 19,000 ล้านบาท

"ปัจจุบันบริษัทไม่ได้มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน และไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงินจากหุ้นกู้ เพราะช่วงปลายปีบริษัทจะได้รับเงินโอนมาอีก 5,000-6,000 ล้านบาท แต่ที่มีแผนจะออมองเพราะต้องการล็อกดอกเบี้ยไว้ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น เหมือนช่วงที่ผ่านมาได้ออกหุ้นกู้ 2,200 ล้านบาทไปแล้ว ก็เพราะเห็นทิศทางว่าดอกเบี้ยจะเป็นช่วงขาขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัท ก็ให้ความสำคัญกับโปรเจ็กต์ไฟแนนซ์ เพราะถือว่าปลอดภัยเมื่อได้เงินโอนก็ชำระคืนธนาคารได้ และปีนี้บริษัทก็ได้เรตอัตราดอกเบี้ยดีกว่าปีที่ผ่านมาด้วย เพราะเรตติ้งของบริษัทดีขึ้น ที่ผ่านมาบริษัทใช้เงินกู้จากธนาคาร 2,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันแบงก์ก็แข่งขันให้วงเงินกู้กับบริษัทรายใหญ่ ซึ่งบริษัทก็บริหารตามความเหมาะสม ในการออกหุ้นกู้และการใช้โปรเจ็กต์ไฟแนนซ์" นายไตรเตชะ กล่าว

สำหรับบริษัทจดทะเบียน(บจ.)กลุ่มที่อยู่อาศัย ที่มีการระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2553 ( 4 ม.ค.-2 ก.ย.53 ) ข้อมูลจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) รายงานว่ามีจำนวน 7 บริษัท คิดเป็นมูลค่ารวม 21,200 ล้านบาท

โดยบริษัทที่ออกหุ้นกู้ประกอบด้วย บริษัท เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน)(บมจ.) ออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ มูลค่า 4,000 ล้านบาท บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มูลค่า 1,500 ล้านบาท บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท มูลค่า 2,500 ล้านบาท บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ มูลค่า 5,000 ล้านบาท บมจ.แสนสิริ มูลค่า 3,000 ล้านบาท และบมจ.ศุภาลัย มูลค่า 2,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม พบว่าบางบริษัทยังออกหุ้นกู้ไม่เต็มวงเงินที่มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ อนุมัติไว้เมื่อช่วงเดือนเดือนเมษายน 2553 โดยบมจ.เอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ขณะที่ได้เสนอขายหุ้นกู้ไปแล้ว 3,000 ล้านบาท คงเหลือวงเงินที่จะออกหุ้นอีก 1,000 ล้านบาท

บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติให้ออกหุ้นกู้วงเงิน 4,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่าในเงินสกุลอื่น อายุไม่เกิน 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ไปใช้ในการพัฒนา โครงการ ซื้อที่ดิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ขณะที่ได้ออกไปแล้ว 1,500 ล้านบาท เหลือวงเงินออกหุ้นกู้อีก 2,500 ล้านบาท

บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ออกหุ้นกู้วงเงิน 5,000 ล้านบาท และมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อรองรับ การขยายธุรกิจและเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินการงาน และเพื่อลดต้นทุนทางการเงิน ขณะที่ได้ออกหุ้นกู้ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท เหลือวงเงินหุ้นกู้อีก 2,500 ล้านบาท

นอกจากนี้ วันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบมจ.พฤกษา มีมติอนุมัติการขายและออกตราสารหนี้ตามโครงการ (Shelf Filing) โดยไม่จำกัดวงเงินและจำนวนครั้งที่เสนอขาย โดยขออนุญาตเป็นโครงการไม่เกิน 5 ปีและกำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกิน 7,500 ล้านบาท

บมจ.ศุภาลัย ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้ออกหุ้นกู้วงเงิน 5,000 ล้านบาท บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติออกหุ้นกู้วงเงิน 10,000 ล้านบาท บมจ.ปริญสิริ ผู้ถือหุ้นมีมติออกตราสารหนี้สกุลเงินบาท วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท และจนถึงปัจจุบัน( ณ 10 ก.ย.53 )ยังไม่ได้มีการเสนอขายหุ้นกู้

สำหรับ บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ผู้ถือหุ้นมีมติให้ออกหุ้นกู้อายุไม่เกิน 10 ปี อีกไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ตามมติผู้ถือหุ้นที่อนุมัติไว้เมื่อปี 2552 วัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้เพื่อซื้อที่ดินพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 13 ก.ย. 53

0 ความคิดเห็น: