อสังหาฯเมืองท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก

อสังหาฯ แหล่งท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้น โรงแรมหรูเกิดใหม่ทั้งหัวหิน-สมุย-ภูเก็ต

นายเดวิด ซีมิสเตอร์ ประธานบริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะหัวหินเป็นตลาดที่มีผลประกอบการดีที่สุด เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ

ขณะที่ตลาดอื่นๆ เช่น สมุย พบว่าแม้ราคาที่ดินปรับตัวลดลงจากเมื่อ 2–3 ปีที่แล้วมาก แต่ยังคงเห็นการเติบโตในส่วนของโรงแรมระดับไฮเอนด์ เพราะ 50% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมาเที่ยวซ้ำในปลายปีนี้

ดังนั้น จึงมีโรงแรมเปิดใหม่หลายแห่ง เช่น บันยันทรี, ดับเบิลยู, รีทรีต และคอนราด เกาะสมุยเรสซิเด็นส์ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวพร้อมจะซื้อที่อยู่อาศัยในไทย คอนราด เกาะสมุย เรสซิเด็นส์ จึงชูจุดขายรับประกันผลตอบแทน 7% เป็นเวลาถึง 5 ปี

ด้านนายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นหากไม่มีความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้นอีก ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวจะส่งผลให้ความต้องการอสังหาฯ ในไทยของต่างชาติฟื้นตัว

สำหรับภาพรวมตลาดวิลลาในภูเก็ตช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับ ปี 2552 เริ่มมีนักลงทุนต่างชาติสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มขึ้น โดยราคาเฉลี่ยของตลาดวิลลาในภูเก็ตช่วงไตรมาสแรกของปีลดลงประมาณ 14% จากราคาเฉลี่ย 59 ล้านบาทของปีก่อน มาอยู่ที่ 50.3 ล้านบาท

คอนโดมิเนียมไตรมาสแรกของปีนี้มีจำนวน 4,686 ยูนิต เพิ่มขึ้น 65 ยูนิต จากปลายปีที่ผ่านมา โดยโครงการใหม่จะมีขนาดเล็ก และราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 89,113 บาท จาก 88,885 บาทต่อตารางเมตร แม้ราคาที่เพิ่มขึ้นจะสวนทางกับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตที่ชะลอตัวลง แต่ยอดขายมีแนวโน้มที่ดีกว่าตลาดวิลลา

ทางด้านตลาดโรงแรมคาดว่าในปี 2553 และ 2554 จะมีซัพพลายใหม่ของระดับห้าดาวเพิ่มขึ้น 2,066 ยูนิต จาก 12,602 ยูนิต และสี่ดาวเพิ่มขึ้น 1,280 ยูนิต จาก 11,537 ยูนิต ทำให้มีการแข่งขันสูงขึ้นตามไปด้วย

จากการสำรวจความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางการเมืองยังอยู่ในระดับต่ำ การขยายฐานทางการตลาดไปยังกลุ่มประเทศอินเดีย ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก และจีน จึงเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ

ปัจจัยค่าเงินบาทแข็ง และอัตราดอกเบี้ยที่มีทิศทางเพิ่มสูงขึ้น เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อตลาดวิลลาและคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมากนัก เพราะส่วนใหญ่ซื้อขายเป็นเงินเหรียญสหรัฐอยู่แล้ว และผู้ซื้อส่วนใหญ่ซื้อเป็นเงินสด

ที่มา : โพสต์ทูเดย์ 30 ส.ค. 53