ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
22 มีนาคม 2553

กรมที่ดิน ล้อมคอก ผู้ประกอบการ ลักไก่ นำบ้านเดี่ยว -แฝดจดทะเบียนอาคารชุดขายต่างชาติ เล็งออก กฎกระทรวง - รื้อ ก.ม.อีกรอบ ระบุนิยามห้องชุดต้องมีพื้นที่ส่วนกลางเชื่อมถึงกัน -ความสูงไม่ต่ำกว่า 2 ชั้น "อธิป พีชานนท์" ยันต้องระงับใบอนุญาต

แหล่งข่าวจากกรมที่ดินเปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า จากกรณีที่มีผู้ประกอบการ นำโครงการลักษณะบ้านเดี่ยว ที่มีการแบ่งซอยห้องอยู่ในอาคารหลังเดียวกัน ยื่นจดทะเบียนห้องชุดต่อกรมที่ดิน โดยอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาคารชุดนั้น เรื่องนี้กรมที่ดินไม่ได้นิ่งนอนใจ และเห็นว่าเมื่อกฎหมายอาคารชุดมีช่องโหว่ เนื่องจากไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบไว้

ดังนั้น จึงมีแนวทางแก้ไขกฎหมายอาคารชุดหรือ ออกกฎกระทรวง กำหนดรูปแบบอาคารชุดให้ชัดเจน คือ อาคารชุดจะต้องมีความสูง ไม่ต่ำกว่า 2 ชั้น และพื้นที่ส่วนกลางโดยรอบจะต้องเชื่อมถึงกันได้ แต่เมื่ออาคารใดที่ไม่สามารถมีทางเดินเชื่อมถึงกันได้ ก็ให้ถือว่าอยู่ในข่ายโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด

อย่างไรก็ดีที่ผ่านมากรมที่ดินได้หยิบยกกรณี บริษัทโอทรูวิลล่าส์ จำกัด ยื่นขอจดทะเบียนอาคารชุด โครงการออกซิเจน คอนโดมิเนียม ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีลักษณะอาคารสูง 2 ชั้น 5 อาคาร จำนวน 16 หน่วย ประกอบด้วยอาคารเอ-บี ลักษณะเป็นตึกแถว ส่วนอาคารซี ดี และอี เป็นลักษณะบ้านแฝด ซึ่งมองว่าผู้ประกอบการอาจอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายอาคารชุดเพื่อถือ กรรมสิทธิ์ในที่ดินของคนต่างด้าว

โดยนำอาคารที่เป็นลักษณะของบ้านเดี่ยวหลายอาคารมาจดทะเบียนเป็นอาคารชุด ซึ่งเปิดช่องให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ทั้งอาคารและที่ดิน ที่สำคัญการยอมให้จดทะเบียนอาคารชุดได้จะทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงกฎหมาย จัดสรรที่ดินอีกด้วย

ทั้งนี้ มาตรา 4 แห่งพ.ร.บ.อาคารชุด พ.ศ. 2522 ให้คำนิยาม"อาคารชุด"ว่า อาคารที่บุคคลสามารถแยกกรรมสิทธิ์ออกได้เป็นส่วนๆ โดยแต่ละส่วนประกอบด้วยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนบุคคลและกรรมสิทธิ์ร่วมใน ทรัพย์ส่วนกลาง โดยไม่ได้มีการกำหนดลักษณะหรือ รูปแบบ ของอาคารไว้

ดังนั้นจึงหารือ คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 5) ได้พิจารณา ข้อหารือ และระบุว่า กฎหมายอาคารชุดไม่ได้กำหนดรูปแบบไว้ แต่เมื่อเจ้าพนักงานเห็นว่าอาคารสามารถแยกการถือกรรมสิทธิ์ได้เป็นส่วนๆ โดยแต่ละส่วนประกอบด้วยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนบุคคลก็สามารถดำเนินการตาม กฎหมายอาคารชุดได้

ด้านนายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า กรมที่ดินจะต้องเด็ดขาดในการตีความ เพราะกฎหมายอาคารชุดมีความชัดเจนในตัวเองอยู่แล้วไม่มีลักษณะคลุมเครือ นอกจากนี้ รูปแบบอาคารชุดและบ้านเดี่ยวบ้านแฝดมีลักษณะแตกต่างกันสิ้นเชิง ไม่มีความชับซ้อนอะไร เพราะหากปล่อยให้มีการตีความโดยใช้ดุลพินิจที่ผิดๆก็จะส่งผลเสียตามมาโดย เฉพาะการเปิดโอกาสให้คนต่างชาติเข้ามาถือครองที่ดินไทยมากขึ้น และควรระงับใช้อนุญาตกับโครงการที่มีพฤติกรรมดังกล่าว

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ : 18-20 มี.ค. 53

0 ความคิดเห็น: