ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
10 พฤศจิกายน 2552

ตระกูล "จรณะจิตต์" ถือเป็นตระกูลหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจโรงแรมของไทย เพราะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโรงแรมเก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับโลก อย่างโรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ด้วยสัดส่วนถึง 30% และยังมีธุรกิจโรงแรมเครืออมารีที่บริหารอยู่มากถึง 11 แห่ง รวมทั้งบริหารให้กับโรงแรมอื่นๆ อีก 6 แห่ง

นอกจากนี้ตระกูล "จรณะจิตต์" ยังได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัทต่างๆ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริษัทอิตัลไทยฯ กลุ่มบริษัท OHTL บริษัท ศักดิ์สินประสิทธิ์ จำกัด เป็นต้น ล่าสุด ยุทธชัย จรณะจิตต์ ซึ่งวันนี้นั่งเก้าอี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด ที่ได้จัดตั้งขึ้นมาใหม่ ด้วยทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท เพื่อก้าวสู่ธุรกิจใหม่ ด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการพัฒนาที่ดินที่อยู่ในมือ ในจังหวัดสำคัญๆ ด้านการท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่ธุรกิจหนึ่งธุรกิจที่จะต่อยอดและสร้างรายได้ให้กับตระกูล

++บทบาทของบริษัทใหม่เป็นอย่างไร
บริษัท อมารี เอ็ซเทท จำกัด ถือหุ้น 99% โดยบริษัท ศักดิ์สินประสิทธิ์ จำกัด ซึ่งก็ถือหุ้นโดยครอบครัว "จรณะจิตต์" 100% เช่นกัน ซึ่งบริษัท อมารี เอ็ซเททฯ วางเป้าหมายให้ดำเนินการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ อมารี โดยจะเน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโรงแรมในเมืองไทย ตามจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เพราะครอบครัวมีที่ดินอยู่จำนวนมาก ที่จังหวัดภูเก็ต บริเวณหาดป่าตองมีที่ดินเหลืออยู่ประมาณ 45-50 ไร่ ด้านหลังหาดป่าตองมีอีก 7 ไร่ และอีกแปลงบริเวณหาดนายยาว 20 ไร่ ที่เกาะสมุย มีที่ดินอยู่ 9 ไร่ บริเวณหาดเชวง ส่วนที่กรุงเทพฯ ก็มีที่ดินแถวซอยศูนย์วิจัย ประมาณ 4 ไร่ และที่ดินอื่นๆ อีกหลายแปลงทั่วประเทศ ซึ่งที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ อยู่ภายใต้บริษัท ศักดิ์สินฯ มีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาทน่าจะได้
การพัฒนาโครงการในแต่ละแห่ง บริษัท อมารี เอ็ซเททฯ จะจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา โดยเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 20% ส่วนที่เหลือก็อาจจะเป็นในส่วนของเจ้าของที่ดิน หรือบริษัทในเครือก็ได้ หรืออาจจะเป็นการถือหุ้นโดยส่วนตัวของตระกูลก็ได้เช่นกัน โดยจะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด

++โครงการที่จะพัฒนามีรูปแบบอย่างไร
โครงการแรกที่จะพัฒนา คือ โครงการอมารี เรสซิเดนซ์ หัวหิน ในคอนเซ็ปต์ Mix Used มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท บนเนื้อที่ 19 ไร่ ประกอบด้วยส่วนของโรงแรม 230 ห้อง และคอนโดมิเนียมแนวคิดใหม่ "โฮเทล เซอร์วิส คอนโดมิเนียม" (Hotel Serviced Condominium) อีก 210 ห้อง ราคาตั้งแต่ 3-15 ล้านบาท เป็นห้องขนาด 1 ห้องนอนพื้นที่ 41-51 ตารางเมตร ประมาณ 80% ส่วนที่เหลือจะเป็นขนาด 2-3 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 85-150 ตารางเมตร โดยจะเริ่มขายพรีเซลวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงหลังสงกรานต์ปีหน้านี้ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อห้องพักจะสามารถใช้บริการในส่วนของโรงแรมได้ทั้งหมด รวมถึงจะได้รับบัตรส่วนลดในเครืออมารีด้วย โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมน่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท และมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท

"ต่อไปอมารีจะไม่มีเฉพาะโรงแรม จะมีเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ คอนโดมิเนียม ซึ่งรูปแบบการพัฒนาจะใช้ต้นแบบจากโครงการที่หัวหิน เพื่อนำไปใช้ต่อไปในที่ดินที่มีอยู่ แต่ละแห่งจะมีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อบริหารคอนโดมิเนียม ส่วนโรงแรมก็ตั้งบริษัทใหม่ด้วยเช่นกัน อย่างเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ ก็ได้มีการลงทุน 750 ล้านบาท ขึ้นโครงการที่ซอยศูนย์วิจัย โครงการอมารี เรสซิเดนซ์ แบงคอก ที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายนปีหน้า คอนเซ็ปต์ของอมารี เอ็ซเทท คือ ทำอย่างไรจะสร้างมูลค่าที่ดินที่มีอยู่ให้ได้"

++มองทิศทางธุรกิจอสังหาฯ อย่างไร
สภาพเศรษฐกิจไทยเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น จากการศึกษาถึงโอกาสการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ ยังพบว่าประเทศไทยยังมีโอกาสการเติบโตได้อีกมาก และคาดว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจลำดับต้นๆ ที่จะมีการฟื้นตัวก่อน และเชื่อว่าธุรกิจอสังหาฯ จะมีผลสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะยาวอีกด้วย

การที่บริษัทลงทุนในขณะนี้เพราะมีความพร้อมด้านการลงทุนและการบริหารงาน รวมถึงมีกลุ่มบริษัทในเครือที่เข้ามาดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การก่อสร้าง วัสดุที่นำมาใช้ ซึ่งทำให้ต้นทุนจากการที่บริษัทใช้ในกลุ่มด้วยกันเองลดลงไปได้ถึง 20% ขณะเดียวกันกลุ่มอมารี ก็มีฐานลูกค้าเป้าหมายอยู่เป็นจำนวนมาก

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ 09-11-52

0 ความคิดเห็น: