ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
8 พฤศจิกายน 2552

รัฐบาลหนุนผู้รับเหมาก่อสร้างไทยรับงานต่างประเทศ เร่งแก้กฎหมายบีโอไอส่งเสริมการลงทุนธุรกิจ-หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานเสวนาและปาฐกถาหัวข้อ "นโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมธุรกิจที่ปรึกษา ออกแบบและก่อสร้างในต่างประเทศ" โดยระบุว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเอกชนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทยมีศักยภาพ และมีผลงานมาแล้วในหลายประเทศ อาทิเช่น อินเดีย กาตาร์ และเมืองดูไบ

ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมที่จะแก้ไขกฎหมายบีโอไอ เพื่อให้มีมาตรการสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ รวมถึงจัดหาสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้ธุรกิจก่อสร้าง ไทยที่รับงานในต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนไทย คาดว่าต้องใช้เวลาถึงปี 2553 แต่ระหว่างนี้ หากตนมีโอกาสพบกับผู้นำหรือหน่วยงานของประเทศต่างๆ ก็จะสอบถามช่องทางการลงทุน รวมทั้งชี้แจงว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยมีศักยภาพด้านใดบ้าง วันนี้อุตสาหกรรมไทยทำได้ครบวงจรตั้งแต่ออกแบบไปจนถึงก่อสร้าง

ขณะที่สำนักงานผู้แทนการค้าไทย กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ จะประสานขอข้อมูลการลงทุนในต่างประเทศแล้วมาแจ้งให้เอกชนได้รับทราบ หรือหากมีงานก่อสร้างสถานทูตไทยในต่างประเทศ รัฐบาลก็จะให้เอกชนไทยเข้าไปรับงานนี้

นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วโลกอยู่ที่ 150 ล้านล้านบาท และมูลค่างานกว่า 50% หรือประมาณ 70 ล้านล้านบาท ซึ่งอยู่ในเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง รัฐบาลจะเจรจากับประเทศเหล่านี้ เพื่อให้เอกชนเข้าไปรับงานในประเทศแถบนี้ ปัจจุบันมีบริษัทก่อสร้างไทยมีการก่อสร้างงานในต่างประเทศมูลค่าเพียง 2.4 หมื่นล้านบาท ไม่ถึง 1% ของมูลค่าอุตสาหกรรมก่อสร้างของโลก

ดังนั้น หากรัฐบาลเข้าไปสนับสนุนเรื่องนี้เต็มที่ ธุรกิจก่อสร้างจะสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก เป็นการสร้างงานให้คนในประเทศนับล้านคนตั้งแต่ส่วนสถาปนิก วิศวกร และแรงงาน รวมถึงการส่งออกวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ

ดึงไทยเข้มแข็ง 7 แสนล้านลงก่อสร้าง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า มูลค่าก่อสร้างในประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 9 แสนล้านบาท มีการจ้างงาน 3-4 ล้านคน และภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งระยะ 3 ปี ที่มีวงเงิน 1.43 ล้านล้านบาท จะทำให้มูลค่าการก่อสร้างในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 7 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี จ้างงานได้ 1.5 ล้านคน ดังนั้น อุตสาหกรรมก่อสร้างจะเป็นเครื่องจักรสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและแก้ปัญหาอุปสรรคของอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศ รัฐบาลจะมีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ เพื่อทำให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น อาทิเช่น การปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างระบบอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ามีปัญหาหนึ่ง เป็นปัญหาเรื้อรังเกี่ยวกับการประมูลงานก่อสร้างของส่วนราชการไทย คือ ภาพลักษณ์ความโปร่งใส และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่มักจะเกิดขึ้นเสมอ ตนยืนยันว่า รัฐบาลชุดนี้ต้องการที่รักษาระบบธรรมาภิบาล โปร่งใส และซื่อสัตย์สุจริต แต่ภาคเอกชนต้องให้ความร่วมมือ และไม่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้น โดยต้องแข่งขันด้วยสามารถของตัวเอง เมื่อเอกชนไทยมีความเข้มแข็งจากภายใน ก็จะสามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ด้วย

บีโอไอเตรียมหารือแนวทางหนุนลงทุนนอก


นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ มอบหมายให้บีโอไอ ศึกษาแนวทางส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งคณะอนุกรรมการมาตรการส่งเสริมการลงทุน จะมีการประชุมในวันที่ 13 พ.ย. 2552 เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ โดยจะต้องมีการพิจารณารูปแบบ การจัดหน่วยงานและกำลังคนภายในบีโอไอ เพื่อรองรับการส่งเสริมดังกล่าว ซึ่งควรมีการกำหนดว่าภูมิภาคใด ที่เหมาะสมกับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย อาทิเช่น ประเทศเพื่อนบ้าน จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา โดยจะส่งเสริมลงทุนในต่างประเทศ ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ

นายสรยุทธ กล่าวว่า รวมทั้งจะมีการพิจารณายกร่างแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งกฎหมายฉบับปัจจุบันกำหนดให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเฉพาะการลงทุนในไทย โดยบีโอไอจะ เป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดความตกลงภาษีซ้อน รวมทั้งจะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดบทบาทหน้าที่สนับสนุนผู้ประกอบการ อาทิเช่น สำนักงานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 06-11-52

0 ความคิดเห็น: