แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ปรับเกม เพิ่มทาวน์เฮ้าส์-คอนโดลดเสี่ยง

แนวโน้มอสังหาฯไทย หลายบริษัทปรับลดเป้า ขณะที่พี่ใหญ่ของวงการอย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ปีนี้ประกาศขอประคองตัวให้ได้ก็พอใจแล้ว

ขณะที่อันดับรองในตลาดอย่าง บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ไต่ระดับรายได้แซงขึ้นมาแทนที่ โดยไตรมาส 1 ปี 2552 พฤกษาฯ มีรายได้รวม 3,780.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในรอบเดียวกัน 1,550.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69.5 % มากกว่าแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ที่ผลประกอบการไตรมาส 1/2552 ลดลงทั้งรายได้-ผลกำไร

ไตรมาส 1ปี 2552 รายได้รวมของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ อยู่ที่ 3,120 ล้านบาท ลดลง 17-18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทำได้ 3,807 ล้านบาท กำไรสุทธิ 628 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ได้ 658 ล้านบาท โดยรายได้รวมไตรมาส 1 ปี 2552 เป็นสัดส่วน 20.6% ของรายได้รวมปี 2552 ซึ่งวางไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท

"สร้างพร้อมขาย"...ดาบสองคม

นโยบายการสร้างบ้าน-คอนโด พร้อมขายของแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ถือเป็นดาบสองคม เพราะแม้จะคุมต้นทุนได้ และสร้างความมั่นใจต่อตลาดเป็นอย่างดี แต่อีกด้านหนึ่งก็รับผลกระทบ ยอดขายหดลงชัดเจนในยามที่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ

หากพิจารณาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เสียโอกาสในการทำการตลาดคอนโดในเมืองค่อนข้างมาก จากนโยบายสร้างก่อนขาย 100% เนื่องจากโครงการที่ขึ้นในช่วงนั้นมูลค่าไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท ต้องรอให้สร้างเสร็จก่อนจึงจะเปิดขาย ทำให้เสียโอกาสในช่วงที่ตลาดกำลังมีความต้องการสูง แต่ผู้บริหารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ คาดว่า โครงการ "เดอะ รูม รัชดาฯ -ลาดพร้าว" มูลค่าขายรวม 2,995 ล้านบาท ที่จะเริ่มโอนให้ลูกค้าในเดือนมิ.ย. นี้ จะช่วยเสริมรายได้และกำไร

ข้อมูลวิเคราะห์ของ บมจ.หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่า "เดอะ รูมรัชดาฯ-ลาดพร้าว" เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสร้างก่อนขาย โดยมีกำหนดงานก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนฯ ในเดือนมิ.ย. ปัจจุบันมีผู้สนใจจอง 70% ทำสัญญาจะซื้อขายแล้ว 30% ซึ่งในส่วนนี้คาดว่าจะสามารถโอนฯ และบันทึกรายได้ในช่วงไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนที่ยังไม่มาทำสัญญา ก็ถือว่ายังมีความไม่แน่นอน

ส่วนอีกโครงการ "เดอะ แบงค็อก ตากสิน" พบว่ามีผู้เข้าลงชื่อจองเต็ม 100% แต่มีส่วนที่ไม่มาทำสัญญา 30% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเริ่มโอนโครงการ เดอะ รูมรัชดาฯ และการเปิดตัวโครงการใหม่เป็นจำนวนมากในไตรมาส 2 นี้ จะมีส่วนช่วยการฟื้นตัวของผลประกอบการ งวดไตรมาส 2 ได้อย่างชัดเจน

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล รอง กรรมการผู้จัดการและกรรมการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันแลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีโครงการคอนโด ใกล้เคียงสถานีรถไฟฟ้าอยู่แล้ว ทั้งโครงการใกล้สถานีลาดพร้าว มูลค่าโครงการเกือบ 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนกลางปีนี้ ราคายูนิตละ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ มีโครงการใกล้สถานีสาทร-ตากสิน ซึ่งขายหมดแล้ว และมีใกล้สถานีสุขุมวิท อีก 2 โครงการ

ส่วนรายได้ปีนี้ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หวังประคองยอดขายให้ได้ 1.5 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงปี 2551 นายอดิศร ย้ำว่า... "แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทขอแค่ประคองตัวรอดภายใต้วิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้ประมาณ 1.54 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอย ทำให้กำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ในภาวะแบบนี้คงทำได้แค่ประคองตัว"

อัดโปรโมชั่น-เพิ่มทาวน์เฮ้าส์ลดเสี่ยง

ผู้บริหารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ยอมรับว่า เสถียรภาพทางการเมืองและภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย อาจส่งผลต่อยอดขายปรับลดลง แต่แลนด์ฯ คาดว่ายังมีความได้เปรียบ จากการเป็นผู้นำบ้านสร้างก่อนขาย ที่ยอมรับว่าขณะนี้ผู้บริโภค จะซื้อที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จหรือใกล้แล้วเสร็จ เพื่อให้ทันกับมาตรการการลดหย่อนภาษี ทั้งค่าธรรมเนียมการโอน ดังนั้น เพื่อกระจายความเสี่ยง จึงได้เพิ่มกลุ่มสินค้าให้หลากหลายขึ้น และเชื่อมั่นว่า ความเป็นบริษัทขนาดใหญ่ของแลนด์ฯ จะสามารถทนแรงเสียดทาน จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายเล็ก

แนวโน้มเศรษฐกิจที่ซบเซา ทำให้คาดว่าในปี 2552 แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จะมียอดขายลดลง จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง ขณะเดียวกัน การที่กลุ่มผู้ประกอบการ ต้องรักษายอดขายคาดว่าจะทำให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้น อาจเป็นในรูปแบบของการลดราคา การเพิ่มโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ทำให้ต้องยอมปรับลดกำไรบางส่วน ซึ่งภาวะเช่นนี้อาจกระทบไปรายได้จากบริษัทร่วมต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ควอลิตี้เฮ้าส์, โฮมโปร เป็นต้น

ปีนี้เปิด 12 โครงการ 1.6 หมื่นล้าน

อย่างไรก็ดี แม้ประเมินว่าตลาดชะลอตัว แต่แลนด์ฯ ยังคงเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้จะเปิดใหม่ 12 โครงการ ทำให้แลนด์ฯ มีสินค้าพร้อมขายในมือ 44 โครงการมูลค่ารวมกว่า 2.805 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้ยังคงเน้นนโยบาย บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย และได้กระจายพอร์ตสินค้าในตลาดที่ยังมีความต้องการ ทั้งทาวน์เฮ้าส์-คอนโด ทำให้สัดส่วนการเปิดโครงการใหม่ มีสินค้าทาวน์เฮ้าส์จากเดิม 20% เป็น 25% และคอนโดจากเดิม 12% เพิ่มเป็น 18% ขณะที่สัดส่วนบ้านเดี่ยวลดลงจาก 68% เป็น 58%

ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการจำนวน 3,290 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 1.63 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เปิดใหม่ 7 โครงการ มีคอนโด 1 โครงการ คือ "เดอะ รูม รัชดาฯ-ลาดพร้าว" มูลค่า 2,995 ล้านบาท และในช่วงครึ่งหลังของปีเปิด 5 โครงการ

โดย : ปรียา เทศนอก - กรุงเทพธุรกิจ 20-05-52