ม.หอการค้า ขายที่ดิน3 พันล้าน เหมาะทำออฟฟิศ-คอนโดฯ/เตรียมผุดเมืองมหาวิทยาลัยลัยย่านปากเกร็ด

มหาวิทยาลัยหอการค้า เล็งประกาศขายที่ดินทำเลทองย่านถนนวิภาวดีรังสิต 40 ไร่พร้อมอาคารเรียน 21 หลัง มูลค่า 3,000 ล้านบาท ให้บริษัทพัฒนาที่ดิน โรงเรียนนานาชาติ อาคารสำนักงาน หลัง เซ็นสัญญาซื้อที่ดิน จากเพอร์เฟค 400 ไร่ย่านปากเกร็ด สร้างอาณาจักรเมืองมหาวิทยาลัยครบวงจร

ภายหลังจากที่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เซ็นสัญญาซื้อที่ดิน กับ บริษัทพร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) จำนวน 400 ไร่ วงเงิน 900 ล้านบาท บริเวณถนนชัยพฤกษ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อ พัฒนาเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ที่พักอาศัย ตลอดจน พื้นที่พัฒนาเชิงพาณิชย์ ครบวงจร ตามที่"ฐานเศรษฐกิจ"นำเสนอข่าวในฉบับที่2424 ประจำวันที่ 7-9 พฤษภาคม 2552 นั้น

ล่าสุด แหล่งข่าวจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าขณะนี้ทางมหาวิทยาลัย มีแผนนำที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยปัจจุบัน จำนวน กว่า 40 ไร่ พร้อมอาคารเรียน21อาคาร สูง 7-8 ชั้น บริเวณ ย่านดินแดง ถนนวิภาวดี-รังสิต เปิดขายให้กับภาคเอกชนที่สนใจ เพื่อนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ หลังจากที่มหาวิทยาลัย มีแผนย้ายออกไปอยู่นอกเมือง เนื่องจากพื้นที่ปัจจุบันค่อนข้างแออัด และที่สำคัญมหาวิทยาลัยไม่มีรายได้เพียงพอที่จะบริหารมหาวิทยาลัยได้ 2 แห่งในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ดีเบื้องต้นได้มีการประเมินมูลค่าที่ดินและอาคาร ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทและคาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถ ร่างทีโออาร์ (เงื่อนไขบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น ) ประกาศเชิญชวนเอกชนที่สนใจ ยื่นข้อเสนอ เพื่อซื้อที่ดินและอาคารนำไปพัฒนาโครงการในอนาคตต่อไป

แหล่งข่าวกล่าวว่า เนื่องจาก แปลงที่ดินดังกล่าว เป็นทำเลที่มีศักยภาพ และเป็นผืนใหญ่ อยู่ใจกลางเมือง ที่หายาก และราคาที่ดิน ต่อตารางวา ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท เนื่องจาก อยู่ติดกับถนนวิภาวดีรังสิต การเดินทางสะดวกสบาย ซึ่งมั่นใจว่าเอกชนหลายรายจะสนใจ และ มองว่า ที่ดินแปลงนี้เหมาะสำหรับพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนโรงเรียนนานาชาติ เพราะ ปัจจุบัน แทบไม่มีโรงเรียนนานาชาติตั้งอยู่ย่านใจกลางเมือง วิทยาเขต มหาวิทยาลัยของรัฐตามต่างจังหวัดที่จะเปิดหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท ที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีอาคารเรียนอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมองว่า ยังสามารถดัดแปลงอาคารที่มีอยู่ พัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน หรือ แม้กระทั่งพัฒนาเป็นย่านที่พักอาศัย ซึ่ง มีอาคาร เก่าประมาณ 5 อาคารที่ สามารถรื้อทิ้งและ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมได้

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับ ที่ดินที่เซ็นสัญญาซื้อต่อจาก บริษัทพร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) จำนวน 400 ไร่ บริเวณ ถนนชัยพฤกษ์ ใกล้กับ 5 แยกปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มหาวิทยาลัยจะทยอยพัฒนา ให้เป็นเมืองมหาวิทยาลัยครบวงจร ศูนย์ประชุม ขณะเดียวกัน จะพัฒนาเป็นที่พักอาศัย สำหรับนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษา และผู้ที่มาติดต่อกับทางมหาวิทยาลัย

ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัย ยังต้องการ ที่ดินโดยรอบเพิ่มอีก 50 ไร่ ซึ่งขณะนี้ ได้มอบให้บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ฯ รวบรวมที่ดินให้ ส่วน การออกแบบรายละเอียดโครงการเมืองมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ

ส่วนเหตุผลที่ มหาวิทยาลัย ตกลงใจซื้อที่ดิน ของบริษัทพร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค เนื่องจากเป็นที่ดินผืนใหญ่ติดต่อกันที่เป็นที่ดินรอการพัฒนาของ บริษัทเพอร์เพอร์ตี้ฯ ที่ซื้อเก็บไว้พัฒนาที่อยู่อาศัยในย่านนั้นนานแล้ว ประกอบกับ ราคาที่ดินไม่แพงมากมีถนนสายสำคัญขนาด 6 ช่องจราจรตัดผ่านโดยรอบแปลงที่ดินถึง 3 สาย ได้แก่ถนนสาย 345 ถนนราชพฤกษ์ ถนนชัยพฤกษ์ และสามารถเดินทางเชื่อมจากสะพานพระราม 4 บริเวณ 5แยกปากเกร็ด เชื่อมเข้าสู่ถนนแจ้งวัฒนะ และเชื่อมโครงข่ายจราจรเข้าสู่ใจกลางเมือง โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 20 นาที เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมองว่าทำเลที่จะพัฒนาเป็นเมืองมหาวิทยาลัย ยังอยู่ใกล้กับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะช่วยเสริมให้ทำเลย่านนี้มีศักยภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ การประกาศซื้อที่ดินจากภาคเอกชน มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยมีบริษัทเอกชนชั้นนำ เสนอขายที่ดิน มากกว่า 70 แปลง และในที่สุดได้คัดเลือก ที่ดินของ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟคฯดังกล่าว

ด้านนายชายนิด โง้วศิริมณี กรรมการผู้จัดการบริษัท พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน) หากมีมหาวิทยาลัยมาตั้งย่านดังกล่าวจะส่งผลดี ต่อที่อยู่อาศัย โดยบริษัทเองยังมีที่ดินเหลือบริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยที่จะพัฒนาโครงการต่อ เนื่องรองรับ

ขณะที่ นาย วสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเจนซีฟอร์เรียลเอสเตทแอสแฟร์ กล่าวว่า ทำเลที่เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจาก มีโครงข่ายจราจรเชื่อมได้หลายทาง ได้แก่ ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนรัชดาภิเษก และสามารถเข้าซอยออกไปยัง ห้วยขวางและเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าใต้ดินได้โดยราคาที่ดินตกตารางวาละ ไม่เกิน 150,000 บาท (เฉพาะที่ดินไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง) เนื่องจากอยู่ในซอย ส่วนที่ดินติดริมถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ที่ตารางวาละกว่า 200,000 บาท ถนนรัชดาภิเษก ตารางวาละ 300,000 บาท ซึ่งทำเลนี้เหมาะพัฒนาเป็นที่พักอาศัย บ้านกลางเมือง โรงพยาบาล คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ อย่างไรก็ดีติดปัญหาที่มีตัวอาคาร ซึ่งจะต้องตรวจสอบทางสำนักงานเขตดินแดงว่าสามารถดัดแปลงอาคารทำอะไรได้บ้าง ขณะเดียวกัน หากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต้องย้ายออก จะส่งผลกระทบต่อ หอพัก อพาร์ตเมนต์ ตลอดจนกิจการร้านค้าต่างๆ จะได้รับผลกระทบมาก

ส่วนนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) ( L.P.N. ) ให้ความเห็นว่า นับว่าเป็นทำเลที่ดี แต่เนื่องจาก ราคาที่ดินค่อนข้างสูง แต่ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าจะนำที่ดินไปพัฒนาเป็นอะไร อย่างไรก็ดีมองว่า ที่เหมาะคือ บ้านกลางเมืองราคาแพง คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ขณะเดียวกันหากแผนการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ บริเวณพื้นที่ ดินแดง -มักกะสัน ที่ร่วมมือกันระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กทม. และการเคหะแห่งชาติ บริเวณด้านหลังมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นที่ดินผืนนี้จะมีศักยภาพมากที่สุด

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ 16-05-52