กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ชง คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขาย "บ้านเอื้ออาทร" ยกล็อตให้หน่วยงานรัฐ-องค์กรต่างๆ และภาคเอกชนได้ พร้อมให้ปรับราคาบ้านตามทำเลและศักยภาพ
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (28 เม.ย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะเสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติมาตรการอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ (กคช.)
มาตรการที่สำคัญ ได้แก่ ขอความเห็นชอบให้ กคช.สามารถเสนอขายโครงการ ในลักษณะยกอาคารหรือขายทั้งโครงการให้หน่วยงานรัฐ องค์การต่างๆ ในราคาหักเงินอุดหนุนได้ รวมถึงขายให้เอกชนได้ แต่ราคาที่ขายให้เอกชนนั้นต้องไม่ต่ำกว่า 3.9 แสนบาทต่อยูนิต
พร้อมทั้งให้ กคช.สามารถปรับราคาบ้านเอื้ออาทร ตามทำเลและศักยภาพ และขอให้ผ่อนปรนมาตรการ ในการขายโดยไม่จำกัด จำนวนหน่วยต่อผู้ซื้อแต่ละราย รวมทั้งให้รัฐสนับสนุน การจัดหาสถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อ โดยเพิ่มสถาบันการเงิน จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน พร้อมอนุมัติให้ธนาคารออมสินจัดตั้งวงเงินหมุนเวียน 500 ล้านบาท ให้ กคช.รับซื้ออาคารคืนและนำมาขายใหม่กรณีผู้ซื้อบ้านเอื้ออาทรขาดการชำระค่างวดติดต่อกัน 3 เดือน
นอกจากนี้ กคช.ยังเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติ ให้มีการยกเลิกข้อจำกัดการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเอื้ออาทร จากเดิมที่กำหนดให้โอนเมื่อครบ 5 ปี เนื่องจากเป็นข้อจำกัดจำนวนสถาบันการเงิน ที่จะให้สินเชื่อแก่ผู้ซื้อบ้านเอื้ออาทร และผู้ที่มีรายได้น้อยกลุ่มหนึ่ง อาทิเช่น ผู้ใช้แรงงานที่มักมีความจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานตามแหล่งงาน รวมทั้งขอความเห็นชอบจาก ครม.ในหลักการการจัดตั้งกองทุนเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และขอให้ลดหย่อนภาษีให้ผู้ลงทุนที่ซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่ลงทุนในโครงการบ้านเอื้ออาทร
แหล่งข่าวระบุว่า พม.ยังเสนอมาตรการเพิ่มเติมอื่นๆ อาทิเช่น ให้ ครม.มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมสนับสนุนการเดินรถโดยสารสาธารณะ เข้าในโครงการบ้านเอื้ออาทร และมอบให้กระทรวงการคลัง ศึกษาหาแนวทางที่จะสนับสนุนให้ กคช.เป็นรัฐวิสาหกิจ ที่ให้บริการสาธารณะด้านสาธารณูปโภค ตามนโยบายพิเศษของรัฐบาล เพื่อให้ได้รับการค้ำประกันเงินกู้จากกระทรวงการคลังในกรณีที่มีผลการดำเนิน งานขาดทุนติดต่อกัน 3 ปี
ขณะเดียวกัน พม.จะเสนอให้ ครม.อนุมัติให้ปรับลดจำนวนหน่วย โครงการบ้านเอื้ออาทรจาก 300,504 หน่วย เป็น 281,556 หน่วย โดยให้ดำเนินการเฉพาะพื้นที่ ที่มีศักยภาพและความต้องการอย่างแท้จริง เพื่อให้ กคช.ไม่ต้องลงทุนในหน่วยที่ไม่สามารถขายได้ และไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ย หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จ ในหน่วยที่ยังขายไม่ได้
พร้อมทั้งเสนอให้ ครม.อนุมัติงบประมาณปี 2552-2554 วงเงิน 6,600 ล้านบาท ให้ กคช.เพื่อชดเชยภาระดอกเบี้ยเงินกู้จากนโยบายขยายระยะเวลาก่อสร้าง 180 วัน วงเงิน 1,847 ล้านบาท การชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับโครงการที่จ่ายเงินค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างอาคารและค่าสาธารณูปโภคไปบางส่วนแล้ว แต่โครงการต้องชะลอหรือยกเลิกไป วงเงิน 2,008 ล้านบาท และการขอสนับสนุนเงินอุดหนุน เพื่อชดเชยผลขาดทุน อันเกิดจากดำเนินโครงการ โดยเฉพาะการชดเชยเฉพาะภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 6 เดือน หลังการก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผน วงเงิน 2,745 ล้านบาท
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 28-04-52
ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com
...
28 เมษายน 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น