ติดต่อ ที่ดินภูเก็ต : ศักดิ์ดา การวิจิตร โทร : 081-5377146 อีเมล์ : s_karnwigit@yahoo.com ...
24 ธันวาคม 2551

นาย สุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโย บายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) สำนักงบประมาณ สำนักงานบริหารหนี้ สาธารณะ (สบน.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อจัดทำแผนพลิกฟื้น กคช. ขณะนี้ได้มีข้อสรุป 6 กลยุทธ์ เพื่อปรับปรุงแนวทางการดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทรแล้ว โดยจะเตรียมนำข้อเสนอทั้ง หมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป เชื่อ ว่าจากนี้ไปจะทำให้กคช.บริหารโครงการต่างๆ ได้ผลดีมากขึ้นและประชาชนจะมีโอกาสได้บ้านอยู่อาศัยได้ง่าย ไม่ต้องมีปัญหา เรื่องโครงการล้ม หรือไม่มีเงินผ่อนต่อไป

สำหรับ 6 กลยุทธ์ ประกอบด้วย
1.ขอยกเลิกการจำกัดการโอนสิทธิ์ จากเดิมระบุซื้อบ้านเอื้ออาทรจะได้โอนสิทธิ์เมื่อเลย 5 ปีไปแล้ว เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสมากขึ้น บางรายอาจซื้ออยู่ 3 ปี จากนั้นอาจเปลี่ยนมือได้เป็นการเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้ซื้อ

2.โครงการ ในพื้นที่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรมซึ่งมีผู้นิยมเช่ามากกว่าซื้อ กคช. จะขอครม.ให้กคช.ขายยกอาคาร หรือยกโครงการให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม หรือผู้ที่ต้องการลงทุนนำอาคารเหล่านี้ไปให้ผู้ มีรายได้น้อยเช่า

3. จะขอให้กคช.ปรับราคาซื้อขายบ้านได้ตามทำเล เนื่องจากการขายบ้านทั่วประเทศในราคาเดียวกันเป็นการฝืนตลาดอย่างมาก เช่น อาคารแฟลต 5 ชั้น หากไม่มีลิฟต์ ชั้น 1 ชั้น 2 ต้องแพงกว่าชั้น 4-5 บ้านก็เช่นเดียวกัน บ้านที่ติดถนนหลัก ต้องมีราคาสูงกว่าที่อยู่ในซอยลึก หรือโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดี อยู่ในเมือง ต้องแพงกว่าบ้านที่อยู่ชานเมือง

4.จะขอให้รัฐบาลสนับ สนุนเรื่องการคมนาคมจากโครงการไปยังแหล่งชุมชน เพราะมีหลายโครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่อยู่ในทำเลที่การคมนาคมไม่สะดวก

5. จะขอให้กคช.สามารถทำข้อตกลงกับธนาคารอื่นได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีเพียง 2 ธนาคารเท่านั้นคือ ธนาคารอาคารสง เคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน เพื่อเปิดช่องให้มีทางเลือก เพิ่มมากขึ้น โดยรัฐอาจสร้างแรงจูงใจให้ธนาคารอื่นเข้ามารับโอนโครงการบ้านเอื้ออาทรมาก ขึ้น และ

6.จะเสนอให้มีแหล่งเงินทุน ในลักษณะกองทุน เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มที่ขาด แคลนที่พักอาศัย แต่มีข้อจำกัดต่างๆ อาทิ รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดไว้ เพื่อให้คนกลุ่มนี้มีแหล่งเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำ และกู้ระยะยาว เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาด เปลี่ยนแปลงบ่อยมีประชาชนจำนวนมากไม่สามารถผ่อนบ้านต่อได้ กคช. ต้องยึดบ้านคืนซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นหากมีกองทุนดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว จะเป็นการช่วยผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ในปี"52 กคช.ได้รับอนุมัติให้ลงทุนวงเงิน 22,000 ล้าน บาท ซึ่งจะใช้ดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร 18,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นโครงการในลักษณะพัฒนาสังคม หรือโครงการย่อยๆ อีก 2-3 โครงการ อาทิ โครงการบ้านหลังแรก 2,000 หน่วย โครงการบ้านรัฐสวัสดิการอีก 600 หน่วย นอกจากนี้จะไปอบรมให้ความรู้กับชุมชนทั้งในชุมชนของกคช.และชุมชนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม กคช.จำเป็นต้องทำแผนการตลาดใหม่ เพื่อให้เข้าถึงและให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน เพราะที่ผ่านมายอมรับว่า กคช.ด้อยในเรื่องประชาสัมพันธ์

ที่มา : ข่าวสด 22/12/2551

0 ความคิดเห็น: