Why Invest...Phuket ?

Why Invest...Phuket ?
บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการวิจัยเชิงลึกตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในจังหวัดภูเก็ต Why Invest...Phuket โดยชี้ให้เห็นว่าคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนใน ระดับสูง ทั้งราคาขายต่อและการปล่อยเช่า ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของนักท่องเที่ยว การเพิ่มการลงทุนระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐ จนทำให้ปริมาณคอนโดฯเกรดเอ ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

ครึ่งปีแรกผุดพรึ่บ 48 โครงการ

ตลาดภูเก็ตเป็นตลาดที่มีศักยภาพในระดับสูง อัตราการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2547 อยู่ที่ 316 ยูนิต ในปี 2548 อยู่ที่ 545 ยูนิต และปี 2549 ที่ 690 ยูนิต แม้จะมีการชะลอตัวในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ อยู่บ้างในปี 2550 (101 ยูนิต) แต่ความต้องการในตลาดก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากมีห้องชุดถูกจำหน่ายไปถึง 214 ยูนิต

และในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 มี ห้องชุดในภูเก็ตเปิดตัวทั้งสิ้น 2,202 ยูนิต จาก 48 โครงการ ในจำนวนนี้สัดส่วน ครึ่งหนึ่งถูกจำหน่ายออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยห้องชุดจำนวน 168 ยูนิต ที่ถูกจำหน่ายออกไปในช่วงครึ่งแรกของปี มีมูลค่า 2.7 พันล้านบาท

เฉลี่ยคอนโดฯ 1.01 แสนบาท/ตร.ม.

ราคาขายของห้องชุดในภูเก็ตมีความหลากหลาย โดยในปี 2550 ราคาขาย ห้องชุดในภูเก็ตอยู่ระหว่าง 55,000-140,000 บาทต่อตารางเมตร และมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ 101,203 บาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา ของห้องชุด คือ วิว การเข้าถึงชายหาด คุณภาพของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ และสถานที่ตั้ง โดยพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูเก็ตจะมีราคาสูงที่สุด

สำหรับราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดในภูเก็ตช่วงเดือนมิถุนายน 2551 อยู่ที่ 15.9 ล้านบาท (496,875 เหรียญสหรัฐ) โดยขนาดของห้องชุดในภูเก็ตจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องชุดในเมืองตากอากาศอื่น ปัจจุบันภูเก็ตมีห้องชุดที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างทั้งสิ้น 1,450 ยูนิต

แผนกวิจัยของไรมอน แลนด์ ประมาณการว่า ปัจจุบันภูเก็ตมีห้องชุดที่มีราคาสูงกว่า 150,000 เหรียญสหรัฐ และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจำนวน 1,450 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันขายไปได้แล้ว 49% ทำให้มีห้องชุดที่ราคาสูงกว่า 150,000 เหรียญสหรัฐ เหลือขายอยู่ 745 ยูนิต จากจำนวน 26 โครงการ

ปัจจุบันภูเก็ตมีวิลล่าที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจำนวน 363 หลัง โดยสามารถจำหน่ายไปได้แล้วกว่า 63% โดยระดับราคาของวิลล่าส่วนใหญ่อยู่ที่ 2-4 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ราคาขายของวิลล่าระดับท็อปเอนด์อาจพุ่งสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ

บูมปล่อยเช่าขนาด 180-250 ตร.ม.

แผนกวิจัยของไรมอน แลนด์ ชี้ด้วยว่า ศักยภาพของอัตราการเช่าสำหรับห้องชุดขนาด 180-250 ตารางเมตรในภูเก็ต โดยช่วงฤดูท่องเที่ยวหนาแน่นหรือช่วงเทศกาล (ที่มีอยู่ประมาณ 32 วันต่อปี) จะมียอด การซื้อห้องชุดถึง 90% ส่วนในช่วงฤดู ท่องเที่ยว (161 วัน) จะมียอดการซื้อ ห้องชุดที่ 70% และช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (172 วัน) ยอดการซื้อห้องชุดอยู่ที่ 40%

สำหรับราคาให้เช่าขึ้นอยู่กับฤดูกาล เช่นกัน โดยในช่วงฤดูท่องเที่ยวหนาแน่นหรือช่วงเทศกาล ราคาให้เช่าจะอยู่ระหว่าง 250-495 เหรียญสหรัฐต่อคืน ช่วงฤดู ท่องเที่ยวอยู่ที่ 175-385 เหรียญสหรัฐ ต่อคืน และช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวอยู่ที่ 135-200 เหรียญสหรัฐ

ราคาปล่อยเช่าเฉลี่ยต่อปีสูงสุดอยู่ที่ ห้องชุด 3 ห้องนอน ขนาด 253 ตารางเมตร ของโครงการกะตะ การ์เด้นส์ ซึ่งด้วยอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าถึง 10% สำหรับยูนิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (382 ตารางเมตร) และแพงที่สุด (ขายในราคา 723,676 เหรียญสหรัฐ) จะมีราคาให้เช่าสำหรับสัญญาเช่าหนึ่งปี ณ ปี 2551 สูงถึง 62,028 เหรียญสหรัฐ และทำกำไรจากการเช่าได้ถึง 8.6%
หน้า 9

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ 20 พฤศจิกายน 2551