ไอเอ็นจีชี้นักลงทุนไทย ครึ่งปีนี้เชื่อมั่นพุ่ง92%

ไอเอ็นจี สำรวจดัชนีเชื่อมั่นไทยครึ่งแรกปีนี้พุ่ง 92% อยู่ที่ 113 ไตรมาสสองเทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน ปรับขึ้นตามดัชนีรวมเอเชีย นำโดยจีน-อินเดียที่เพิ่ม 55% จาก 85 ไตรมาสแรกมาอยู่ที่ระดับ 132 ไตรมาสที่ 2 เฉพาะนักลงทุนไทยมองภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นจากลบเป็นบวก ตลาดหุ้นกับราคาอสังหาฯ ปรับขึ้นไตรมาสที่ 3 เล็งลดพอร์ตความเสี่ยงต่ำ หันมาใช้กลยุทธ์กระจายลงทุนเพิ่มเป็น 60%

ไอเอ็นจี กรุ๊ป สถาบันการเงินระดับโลก ได้เผยแพร่ข้อมูลรายงานการสำรวจความเห็นของนักลงทุนใน 13 ประเทศทั่วเอเชียรวมไทย ยกเว้นญี่ปุ่น เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจแต่ละประเทศในภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกรวมถึงภาวะการ ลงทุนรายไตรมาส พบว่าความเชื่อมั่นการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น 74% มาอยู่ที่ 113 ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ จากระดับ 65 ในไตรมาสแรก

หากพิจารณารวมเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ถือว่าดัชนีปรับเพิ่มขึ้นถึง 92% โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2ของปี 2551 ถือว่าดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุนในไทย สามารถขยับขึ้นจากระดับ "ต่ำ" มาเป็นระดับ "ดี"

ทั้งนี้ดัชนีเชื่อมั่นในไทย ถือว่าปรับขึ้นตามดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุนโดยรวมทั้งภูมิภาคเอเชีย นำโดยจีนกับอินเดีย ยกเว้นญี่ปุ่น ซึ่งขยับขึ้น 55% ไต่ขึ้นสู่ระดับ 132 ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ จากระดับ 85 ในไตรมาสแรก ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั่วโลก และการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009

ดัชนีความเชื่อมั่นการลงทุนพากันปรับสูงขึ้น นั้น เป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการเงินของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค บวกกับการที่นักลงทุนเอเชียเชื่อมั่นสภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในภูมิภาค จะช่วยให้ดัชนีปรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 3 ปีนี้

ผลสำรวจชี้ว่านับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 เดือน ที่นักลงทุนไทยปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเศรษฐกิจไทยและสถานะทางการเงิน ส่วนบุคคล จากลบเป็นบวก แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในประเทศยังถดถอย

นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี ในไทย กล่าวยินดีที่ดัชนีเชื่อมั่นการลงทุนของไทยไตรมาสที่ 2 ปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังปัญหาหรืออุปสรรคที่จะเกิดขึ้นปีนี้ โดยคาดกันว่าจีดีพีของไทยจะลดลง 4.4% หลังจากลดลง 7.1% ในไตรมาสแรกเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

การบริโภคในครัวเรือน การส่งออก รายได้จากภาคเกษตร และจำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่การว่างงานเพิ่มขึ้น แต่ไอเอ็นจีคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเติบโตสดใสอีกครั้งในปี 2553 เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม และผลสำเร็จจากการดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของรัฐบาล

ผลสำรวจระบุด้วยว่า นักลงทุนไทยเพิ่มขึ้น มีมุมมองดีขึ้นต่อตลาดหลักทรัพย์และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย และความเชื่อมั่นการลงทุนที่ดีดตัวเป็นบวก ทำให้นักลงทุนพร้อมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

นักลงทุนไทยเชื่อมั่นว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัยจะเพิ่มขึ้น 4% ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และคิดปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน จากเดิมซึ่งเน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ หันมาใช้กลยุทธ์ลงทุนกระจายความเสี่ยงอย่างสมดุลมากขึ้น ในสัดส่วน คิดเป็น 60% ในไตรมาสที่ 2 เทียบ 40% ในไตรมาสแรกปีนี้

กรุงเทพธุรกิจ 16-07-52